แพทย์แผนจีนเป็นการรักษาคนไข้ที่มีการเสียสมดุลระหว่างหยินกับหยาง โดยการประเมินด้วยการตรวจชีพจร และดูว่ามันเสียสมดุลไปทางด้านไหน และก็ปรับสมดุลกลับเข้ามาให้อยู่ในภาวะปกติด้วยสมุนไพร หนักไปทางด้านสมุนไพรจีน ปัจจุบันนี้เราละเอียดขึ้น นอกจากตรวจชีพจรแล้ว ถ้าเกิดเราสงสัยว่าไปทางโรคไหน กลุ่มไหนโดยเฉพาะ เราจะเอาแพทย์แผนปัจจุบันมาร่วมด้วย เช่น อาจจะมีการส่งตรวจเลือด และก็เอาไปร่วมกับการรักษา เพื่อให้ได้การรักษาที่แม่นยำขึ้น

ความแตกต่างระหว่างแพทย์แผนจีนกับแผนปัจจุบัน คือ แพทย์แผนปัจจุบัน การรักษามันจะลงไปในตัวโรค เป็นอวัยวะค่อนข้างโดยตรง เพราะฉะนั้นการรักษาหรือการใช้ยาก็จะเป็นยาที่ออกฤทธิ์ค่อนข้างตรงและเร็ว และอาจจะออกฤทธิ์ค่อนข้างแรง ส่วนทางด้านแพทย์แผนจีน เนื่องจากเรามองว่ามันเป็นการรักษาสมดุล ปรับสมดุลในร่างกาย เพราะฉะนั้น ยาที่เราให้ก็จะค่อยๆปรับสมดุล ถ้าคนไข้มีสมดุลเสียไปในทางหยินมาก ก็ให้ยาที่เป็นกลุ่มหยางเยอะนิดหนึ่งเพื่อปรับให้มันกลับมาสมดุล เพราะฉะนั้นการออกฤทธิ์มันจะค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

โรงพยาบาลมูลนิธิเทียนฟ้าเป็นมูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยคหบดีชาวจีนประมาณ 6 คน ทุกเชื้อชาติ (เป็นตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ) มาร่วมทุนกัน เปิดเป็นโรงพยาบาลที่ไม่ค้ากำไร และรัชกาลที่ 5 ท่านเสด็จมาเปิดโรงพยาบาลให้  ส่วนเรื่องการรักษา  โรงพยาบาลไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ รวมทั้งค่ายาด้วย