ลัทธิเหยียดเชื้อชาติเป็นตัวเร่งสร้างความแตกแยกในสังคมอเมริกัน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เหตุการณ์ใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ นั้น เริ่มจากการที่ตำรวจอนุญาตให้ผู้ชุมนุมเข้าไปในอาคารรัฐสภา กระทั่งมีตำรวจถ่ายรูปกับผู้ประท้วงอย่างสนิทสนม ยิ่งไปกว่านั้น คือ วันที่สองที่ Lincoln Memorial เกือบไม่เห็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลผู้ชุมนุมประท้วง เห็นได้ชัดว่าตำรวจสหรัฐฯ ใช้ท่าทีต่อผู้ประท้วงผิวขาวต่างจากการใช้กำลังรุนแรงต่อผู้ประท้วงเพื่อต่อต้านลัทธิเหยียดเชื้อชาติเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วเป็นอย่างมาก

เว็บไซต์สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ตำรวจสหรัฐฯ มีท่าทีที่ต่างกันต่อชาวผิวขาวและชาวเชื้อสายแอฟริกัน เนื่องจากสหรัฐฯ มีลัทธิเหยียดเชื้อชาติและลัทธิชาวผิวขาวเหนือกว่าที่มีอยู่มานานแล้ว

จากเหตุการณ์สังหารโหดชาวอินเดียนอเมริกัน กระทั่งการซื้อขายชาวแอฟริกันเป็นทาส ในประวัติศาสตร์อเมริกาลัทธิเหยียดเชื้อชาติเป็นหนทางการพัฒนาที่สำคัญ จนถึงปัจจุบันลูกหลานชนกลุ่มน้อยยังไม่มีฐานะที่พึงมีในสังคมอเมริกัน ลัทธิเหยียดเชื้อชาติยังปรากฎให้เห็นเป็นประจำในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่ยุติธรรม ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย รวมไปถึงการเข้าถึงการรักษาพยาบาล เป็นต้น

สถิติล่าสุดจากศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่เสียชีวิตจากโควิด-19 คิดเป็น 2.8 เท่าของชาวผิวขาว ความแตกต่างที่เกิดจากสีผิวนี้มักพบเห็นได้ในสังคมอเมริกัน ชาวแอฟริกันมีจำนวนราว 12 - 13% จากประชากรสหรัฐฯ ทั้งหมด แต่คดีตำรวจยิงผู้ก่อเหตุที่มีเชื้อสายแอฟริกันสูงถึง 40% ขณะเดียวกัน มักเกิดเหตุการณ์แก้แค้นที่เจาะจงต่อชนกลุ่มน้อยนับวันยิ่งมากขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังด้อยโอกาสด้านการมีงานทำ ค่าจ้าง การกู้ยืมเงิน และด้านอื่น ๆ

อันที่จริงแล้ว กฎหมายสิทธิประชาชน กฎหมายว่าด้วยสิทธิเลือกตั้ง และญัตติสิทธิความเท่าเทียม รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงออกว่ามีกลไกคุ้มครองสิทธิของกลุ่มคนผิวสีจำนวนไม่น้อย ทว่าเครื่องมือทางนโยบายที่ไม่ได้ปฏิบัติจริงจังนั้นกลับทำให้ลัทธิเหยียดเชื้อชาติสร้างความแตกแยกในสังคมมากยิ่งขึ้น

หากผู้บริหารประเทศของสหรัฐฯ ปฏิเสธการสำนึกผิดจากปัจจัยทางประวัติศาสตร์ ความไม่ยุติธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม โครงสร้างการเมืองที่แอบแฝงอยู่เบื้องหลังลัทธิเหยียดเชื้อชาติ ปัญหานี้คงจะเป็นเหมือนดั่งเงาตามตัวพร้อมกับการพัฒนาของสหรัฐฯ และเป็นบาดแผลของสังคมอเมริกันไปตลอด ส่วนชาวโลกคงมองได้ชัดเจนแล้วว่า ประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯ นั้นเป็นเพียงเกมการเมืองที่เล่นด้วยคนส่วนน้อยเท่านั้น

Tim/Ping/Cai

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)