หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) ตั้งอยู่ ณ เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นสถานที่อันโด่งดังที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปเยือนเมื่อไปถึงปักกิ่ง อดีตเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงต่อสวรรค์ตามความเชื่อของจีนโบราณ มีเนื้อที่ทั้งหมด 2.7 ล้าน ตร.ม. ตั้งอยู่ในเขตอุทยานห่างจาก พระราชวังต้องห้าม ประมาณ 3 กม. ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ “ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน” เป็นอาคารไม้สำคัญใช้ประกอบพิธีบวงสรวง สูง 3 ชั้น ทรงกลม หลังคามุงกระเบื้องสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้า มีเสารองรับน้ำหนักรวม 28 ต้น ประกอบด้วยเสาหลักขนาดใหญ่ 4 ต้น แทนสัญลักษณ์ของฤดูกาลทั้ง 4   เสาวงกลางมี 12 ต้น แทนความหมายของปีมี 12  เดือน เสาวงนอกสุดมี 12 ต้น แทนความหมายของ 12 ยามใน 1 วัน ตามการนับแบบจีนโบราณ  เป็นอาคารก่อสร้างทรงกระบอกสูง 40 เมตร โดยไม่มีการใช้ตะปูในการก่อสร้างแม้แต่ตัวเดียว และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541 ในฐานะของสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมการวางผังและด้านวัฒนธรรม

หอสักการะฟ้าเทียนถาน สร้างเมื่อปี พ.ศ.1963 สมัยจักรพรรดิหย่งเล่อในราชวงศ์หมิง มีชื่อว่า “เทียนตี้ถัน” แปลว่า หอสักการะฟ้าดิน ต่อมาในปี พ.ศ. 2077 ได้มีการสร้างหอสักการะเพิ่มอีกแห่ง ชื่อ ตี้ถัน หลังจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าทำให้หอเกิดความเสียหาย จึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2449 ซึ่งในอดีตหอนี้สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ให้จักรพรรดิทำพิธีการบวงสรวงฟ้าดินเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับราษฎร จนถึงช่วงปี พ.ศ.2461 หลังการเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองการปกครองครั้งใหญ่ หอสักการะฟ้าเทียนถานได้เปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของที่นี่ได้

ภายในนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ร่มรื่น ต้นไม้เขียวขจี มีลานทางเดินกว้างขวาง ชาวบ้านนั่งทำกิจกรรมการละเล่นกันอยู่ภายในสวนสาธารณะ  เมื่อเดินเข้ามาภายในจะมีกำแพง 2 ชั้น เรียกว่า “กำแพงฟ้าดิน” เป็นการออกแบบตามความเชื่อว่า แผ่นฟ้าโค้ง ผืนดินเหลี่ยม ฟ้าสูง และแผ่นดินต่ำ ส่วนจุดไฮไลท์ที่สำคัญที่ห้ามพลาด จะมีอยู่ทั้งหมด 3 จุด ซึ่งสร้างเรียงกันอยู่กลางสวนจากทิศเหนือลงทิศใต้ ไล่เรียงลงมาจะพบ “ตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน”  (ตำหนักสักการะ) เป็นตำหนักที่โดดเด่น ยิ่งใหญ่ และสำคัญที่สุด จากนั้นต้องไปเดินบน “สะพานตันปี้” ก็จะพบกับ “ตำหนักหวงฉุงหยีว์” (ตำหนักเทพสถิต) ซึ่งอยู่ตรงกลางถัดจากตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน อาคารนี้มีความพิเศษตรงกำแพงที่สามารถสะท้อนเสียงไปยังอีกฝั่งของกำแพงได้ และเมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับ “หวนชิวถาน” (แท่นบวงสรวงฟ้า) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว มีฐาน 3 ชั้น มีความหมายว่า มนุษย์, โลก, และสวรรค์ ความพิเศษอยู่ที่ฐานบนสุดของแท่น จะมี “เทียนซินสือ” (หินใจกลางสวรรค์) เมื่อเราพูดเสียงเบา จะมีเสียงสะท้อนกลับมาทันที

การสร้างสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือมนุษย์ ที่ต้องใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจ ใช้เวลาในการก่อสร้าง และต้องใช้ความคิดเพื่อสื่อความหมายของสิ่งก่อสร้างทุกชิ้นตามความเชื่อจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลังคาที่ต้องเป็นกระเบื้องสีน้ำเงินที่แสดงความหมายถึง สวรรค์/ ความหมายของเสา 28 ต้น ในตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน/ สะพานตันปี้ ที่จะมีความสูงขึ้นเรื่อยๆ เปรียบเสมือนเดินขึ้นสวรรค์ และหินใจกลางสวรรค์ ที่ตั้งอยู่บนแท่นบวงสรวงฟ้า ที่มีเสียงสะท้อน มีความหมายว่า เมื่อจักรพรรดิได้สั่งให้ประชาชนทำอะไร ทุกคนต้องทำทันที เพราะเป็นเจตนาแห่งสวรรค์ เป็นต้น

สำหรับการเดินทางมาเที่ยวที่หอสักการะฟ้าเทียนถาน สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย5 มาลงที่สถานี Tiantandongmen ซึ่งอยู่ใกล้ประตูทางเข้าด้านตะวันออก สามารถเข้าชมได้ทุกวัน แต่สำหรับช่วงเวลาเปิด-ปิด และอัตราค่าเข้าชมนั้นต้องเช็คข้อมูลช่วงที่เราจะไปเพราะจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล

Photo Credit:

- https://akisoto.com/

- https://www.viator.com/tours/Beijing

- http://benjielayug.com/