ก่อนถึงตรุษจีน ค.ศ. 2021 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางลงพื้นที่ตรวจงานที่มณฑลกุ้ยโจว วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เขาเดินทางไปที่ชุมชนจินหยวน บริเวณถนนจินหยาง ในเขตกวนซันหู เมืองกุ้ยหยาง เมืองเอกของมณฑลกุ้ยโจว เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน รับฟังรายงานสภาพการสร้างสรรค์พรรคคอมมิวนิสต์จีนในหน่วยปกครองพื้นฐานและสภาพบริการอำนวยความสะดวกแก่ชาวชุมชน

ชุมชมจินหยวนมีผู้อยู่อาศัยกว่า 11,000 คน แต่ละคนและแต่ละครอบครัวมีความต้องการที่แตกต่างกัน งานบริการในชุมชนจึงครอบคลุมด้านต่าง ๆ มากมาย

นายสี จิ้นผิง กล่าวเน้นที่ชุมชนจินหยวนว่า “หน่วยปกครองพื้นฐานเข้มแข็ง ประเทศชาติก็เข้มแข็ง หน่วยปกครองพื้นฐานปลอดภัย สังคมก็ปลอดภัย” ต้องเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนในด้านการทำงานเพื่อประชาชน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและสร้างหลักประกันด้านความปลอดภัยแก่ประชาชน ตลอดจนยกระดับความรู้สึกได้ประโยชน์ มีความสุข และมีความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ช่วงหลายวันก่อนเทศกาลตรุษจีนมาถึง สมาชิกพรรคฯ และเจ้าหน้าที่ชุมชนจินหยวนต้องทำงานหนักกว่าปกติ หนึ่งในนั้นคือลูกชายของคุณป้าหยางซึ่งไม่ได้กลับบ้านในช่วงตรุษจีนเพื่อปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลที่ต้องการให้ “ฉลองตรุษจีนในเมืองปัจจุบันที่ทำงานอยู่” เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของชุมชนจินหยวนจึงได้ผลัดเปลี่ยนกันไปอยู่เป็นเพื่อนกับคุณป้าหยางเกือบทุกวัน

ชุมชนเป็นหน่วยปกครองระดับพื้นฐานที่สุดที่ให้บริการชาวบ้านโดยตรงในเขตตัวเมืองของจีน แม้ชุมชนจะมีขนาดเล็กแต่เกี่ยวพันถึงครอบครัวเรือนพันเรือนหมื่น ก่อนถึงตรุษจีนตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ในฐานะผู้นำสูงสุดของจีน ยืนหยัดลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่และประชาชนในชุมชน ประชาชนต้องการอะไรนั้นถือเป็นข้อห่วงใยที่สุดของเขา

นางหลี่ เจียทำงานที่ชุมชนไอ้หมิน ในเขตถนนฉูกู่หลัน เมืองฮูฮอด เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำชุมชนแห่งนี้ ก่อนตรุษจีน ค.ศ. 2014 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังชุมชนไอ้หมินเพื่อเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชน ตรวจดูสถานีอนามัย ซุปเปอร์มาเก็ต และห้องโถงอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนประจำชุมชน พร้อมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง

นางหลี่ เจียยังคงจำภาพขณะที่นายสี จิ้นผิงเดินทางออกจากชุมชนไอ้หมินได้อย่างชัดเจน เธอเล่าว่า “ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวกับดิฉันก่อนขึ้นรถว่า ต้องยึดประชาชนอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของจิตใจ พยายามทุกวิถีทางแก้ไขอุปสรรคและความยากลำบากของประชาชน เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องค้นหาจุดด้อย มอบบริการที่ละเอียดและดีที่สุดแก่ชาวชุมชน ทั้งยังยกระดับความพอใจของประชาชนให้สูงขึ้น”

คำกำชับของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ฝังลึกในใจของนางหลี่ เจีย ชุมชนไอ้หมินเป็นชุมชนเก่าแก่ จำนวนและอัตราส่วนประชากรกลุ่มคนพิเศษ เช่น ผู้สูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปี ผู้ว่างงาน ผู้พิการ คนชายขอบ เด็กที่พ่อแม่ไปทำงานในต่างถิ่น และผู้อพยพจากต่างถิ่น ต่างมีมากกว่าชุมชนอื่น การจะยกระดับความรู้สึกได้รับประโยชน์และมีความพึงพอใจของชาวชุมชนนั้นย่อมต้องเอาใจใส่กลุ่มคนพิเศษเหล่านี้ให้ทั่วถึง เพื่อการนี้สมาชิกพรรคฯ และเจ้าหน้าที่ชุมชนจึงตัดสินใจว่าต้องสร้างชุมชนไอ้หมินให้เป็นชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยความรักความห่วงใย

เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการดำรงชีวิตแก่ชาวบ้านและให้ชาวชุมชนมีช่องทางสะท้อนความต้องการคล่องตัวยิ่งขึ้น ชุมชนไอ้หมินจึงตั้ง “ระบบร่วมปรึกษาหารือของชาวชุมชน”

หลังจากนั้นไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนเปิดโอกาสให้ชาวชุมชนทุกคนเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอได้ เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อชาวชุมชนยื่นข้อเสนอแล้วจะสามารถสนองตอบได้อย่างเหมาะสมหรือไม่นั้นถือเป็นบททดสอบต่อเจ้าหน้าที่ชุมชน อย่างไรก็ตามความพึงพอใจของชาวชุมชนส่วนใหญ่เป็นเพียงมาตรฐานเดียวในการประเมินผลงานของเจ้าหน้าที่

“ประชาชนสามารถฉลองเทศกาลตรุษจีนด้วยความพอใจได้หรือไม่ ประชาชนมีความพอใจในชีวิตความเป็นอยู่หรือไม่” เป็นหัวข้อสำคัญในการลงพื้นที่ตรวจงานก่อนตรุษจีนของนายสี จิ้นผิงมาโดยตลอด วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 นายสี จิ้นผิงเดินทางลงพื้นที่ชุมชนกวงหมิง เขตตงหู เมืองหนานชัง มณฑลเจียงซี เพื่อรับฟังรายงานสภาพการสร้างสรรค์พรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้าน และเรื่องอื่น ๆ ของชุมชนแห่งนี้

นางหลิว หยุนเจวียน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมการประจำชุมชนกวงหมิง กล่าวว่า “ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวชี้ว่า การบ่มเพาะค่านิยมหลักแห่งสังคมนิยมนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ทั่วทั้งสังคมต่างต้องพยายามมีส่วนร่วม ชุมชนต้องทำงานด้านนี้ให้ดีโดยใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบและแพลตฟอร์มของตนเอง เราจดจำคำกำชับของท่านเลขาธิการใหญ่ ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราจัดกิจกรรมมากมายผ่านห้องเรียนคุณธรรม เช่น การส่งเสริมครรลองอันดีงามของครอบครัว ประชาชน และสังคม”

ชุมชนกวงหมิงเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีลักษณะความเป็นตัวแทนมากที่สุดในเมืองหนานชัง

หลังจากบรรดาชาวชุมชนอาศัยในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลานานหลายปี ไม่ว่าครอบครัวเดียวกันหรือระหว่างเพื่อนบ้านเองก็หลีกเลี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งหรือข้อพิพาทไม่ได้ ครอบครัวเป็นเซลล์แห่งสังคม ครรลองที่ดีของครอบครัวจะนำมาซึ่งครรลองที่ดีของประชาชนทั่วไปในสังคม หลายปีมานี้ชุมชนกวงหมิงเปิด “ห้องเรียนคุณธรรม” เป็นประจำ เพื่อประชาสัมพันธ์ “คนดี เรื่องดี” รอบตัวให้ชาวชุมชนได้รับทราบ

นางหลี ชุนอิงเป็นเจ้าหน้าที่ประจำชุมชนกวงหมิง สามีของเธอเป็นตำรวจรักษาความสงบเรียบประจำสถานีตำรวจท้องถิ่น ครอบครัวนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของชาวชุมชน ช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 ค.ศ. 2020 สามีภรรยาคู่นี้ทุ่มเทเวลาและแรงกายแรงใจเข้าร่วมการป้องกันควบคุมโรคระบาดอย่างเต็มที่ เมื่อนายโจว อี้ ลูกชายของพวกเขากลับบ้านได้ไม่นานหลังปลดประจำการจากหน่วยทหาร จากความประทับใจในการเป็นตัวอย่างที่ดีของพ่อแม่ โจว อี้จึงเข้าร่วม “หน่วยคอมมานโดป้องกันโควิด-19” ของชุมชนกวงหมิงในฐานะอาสาสมัครประจำชุมชน

นายจาง เจ๋อหลินเป็นชาวชุมชนกวงหมิงเช่นกัน ปีนี้อายุ 83 ปี เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอาสาสมัครของชุมชน คุณลุงผู้นี้เคยทำงานเป็นช่างคีม 10 กว่าปีที่ผ่านมาเขาอาสาซ่อมแซมท่อน้ำและเปลี่ยนกุญแจบ้านฟรีแก่เพื่อนชาวชุมชนมาตลอด แถมไม่เก็บค่าวัสดุอุปกรณ์อยู่บ่อยครั้ง

อาจเป็นเพราะอิทธิพลของคุณลุงจาง จึงทำให้ชาวชุมชนหลายคนขอร่วม “ทีมช่วยเหลือด้วยใจรักแห่งจางเจ๋อหลิน” พวกเขามักปรากฏตัวที่บ้านของชาวชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบัน ชุมชนกวงหมิงมีอาสาสมัครทั้งหมดกว่า 1,000 คน แบ่งเป็นทีมอาสาบริการประเภทต่าง ๆ รวม 16 ทีม ชุมชนแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยครรลองแห่งการให้ความรัก ความเคารพ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างน่าประทับใจ

คณะนักร้องประสานเสียงในชื่อ “ป้ามีความสุข” ของชุมชนกวงหมิงเคยได้รับการชมเชยจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิงว่า พวกเธอมีความกระตือรือร้นขับร้องเพลงได้ดี ปัจจุบัน คณะนักร้องประสานเสียงเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 20 คนเป็นกว่า 100 คน พวกเธอใช้เสียงเพลงบันทึกความเปลี่ยนแปลงของชุมชน สรรเสริญคนดีรอบตัวและชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความผาสุก

ช่วงตรุษจีน ค.ศ. 2021 ประชาชนจีนจำนวนมากต่างเลือกฉลองตรุษจีนในพื้นที่ปัจจุบันที่ทำงานอยู่ ทั้งนี้ ยิ่งต้องการหน่วยปกครองพื้นฐานทั่วประเทศที่ทำงานให้บริการด้วยดีและละเอียดยิ่งขึ้น       นายสี จิ้นผิง กล่าวชี้หลายครั้งว่า “พื้นฐานไม่มั่นคง แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน ภูเขาสั่นคลอน” ระดับความทันสมัยด้านขีดความสามารถและระบบการปกครองประเทศนั้นสะท้อนให้เห็นได้จากหน่วยปกครองพื้นฐานเป็นสำคัญ หน่วยงานราชการต่าง ๆ ล้วนมีนโยบายและมาตรฐานของตนเอง ซึ่งล้วนต้องปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมผ่านหน่วยปกครองพื้นฐานทั้งนั้น นโยบายและมาตรการของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนก็ต้องพึ่งพาหน่วยปกครองพื้นฐานนำไปปฏิบัติตาม เรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ต่างก็ต้องพึ่งพาหน่วยปกครองพื้นฐานไปแก้ไขจัดการเช่นกัน เมื่อหน่วยปกครองพื้นฐานทำงานดี ประชาชนจึงจะรู้สึกได้ประโยชน์ มีความสุข และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นได้ ทั้งนี้ ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่หน่วยปกครองพื้นฐาน เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครชุมชน ตลอดจนฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันใช้ความพยายามอย่างขยันหมั่นเพียร พร้อมไปกับการพึ่งพาแรงใจของบรรดาชาวชุมชน เมื่อครอบครัวเล็ก ๆ ทั่วไปมีสภาพที่ดี ประเทศชาติเราจึงจะดียิ่งขึ้นได้

TIM/LU