ปธน.สี จิ้นผิงในสายตาของข้าพเจ้า--สัมภาษณ์ ดร. ภูมิพัฒณ์ พงศ์พฤฒิกุล ผู้เชี่ยวชาญสายงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

2021-03-10 08:58CMG

ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีนเมื่อปี ค.ศ. 2012 เป็นต้นมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่อย่างโดดเด่น เป็นที่ยอมรับของทั้งชาวจีนและชาวโลก  วันที่ 10 มีนาคมปี 2021  ดร. ภูมิพัฒณ์ พงศ์พฤฒิกุล  ผู้เชี่ยวชาญสายงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (CMG) ในประเด็น “ ปธน.สี จิ้นผิงในสายตาของข้าพเจ้า”ดังต่อไปนี้

ปธน.สี จิ้นผิงในสายตาของข้าพเจ้า--สัมภาษณ์ ดร. ภูมิพัฒณ์ พงศ์พฤฒิกุล  ผู้เชี่ยวชาญสายงานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์_fororder_1

ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ติดตามแนวคิดการพัฒนาและนโยบายของปธน.สี จิ้นผิง มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์  ในพ.ศ. 2555 จนถึงการขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางแห่งสาธารณรัฐประชนจีน ในพ.ศ. 2556 ข้าพเจ้ามีความรูสึกประทับใจแนวคิดและนโยบายในการพัฒนาประเทศจีนในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกาศสงครามกับความยากจน จนทำให้คนจนในประเทศลดลงจาก 750 ล้านคน เหลือ 7 ล้านคน ภายในระยะเวลา 30 ปี   หลักการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรกว่า 1,300 ล้านคน โดยยึดปัจจัยพื้นนฐานสองประการ ได้แก่ 1) สภาพแวดล้อมภายในที่สงบมั่นคงและปรองดองเป็นหนึ่งเดียว และ 2) สภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่มีสันติภาพและความสงบสุข ตลอดจนนโยบายการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นทุกรูปแบบ ท่านปธน. สี จิ้นผิง ได้ปรับปรุงกลไกการเป็นผู้นำและการทำงานเพื่อต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ กำหนดให้การสอบสวนคดีทุจริตและการจัดการเบาะแสต้องรายงานต่อคณะกรรมการพรรคระดับเดียวกันและคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยระดับที่สูงกว่า ให้กรรมาธิการตรวจสอบวินัยส่วนกลางส่งหน่วยตรวจสอบวินัยไปประจำหน่วยงานของรัฐบาลระดับส่วนกลาง และพัฒนาระบบหมุนเวียนตรวจสอบทุกระดับ ให้ครอบคลุมทุกท้องที่ ทุกภาคส่วน และทุกกิจการ

​อีกทั้งข้าพเจ้ายังประทับใจแนวคิดการปรับปรุงและพัฒนาแบบบูรณาการระหว่างเมืองกับชนบท โดยตั้งอยู่บนฐาน “สังคมพอกินพอใช้อย่างทั่วถึง” โดยท่านปธน. สี จิ้นผิง ได้เร่งผลักดันสังคมนิยมที่ทันสมัย พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ให้อุตสาหกรรมนำเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาคในการพัฒนาไปสู่ความทันสมัย และแบ่งผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียม  อีกทั้งการสร้างเกษตรูปแบบใหม่ โดยยึดการประกอบกิจการครอบครัว ฟาร์มรูปแบบครอบครัว สหกรณ์ชาวนา และธุรกิจเกษตร ส่งเสริมชักจูงเงินทุนภาคอุตสาหกรรมเกษตรพาณิชย์ และอนุญาตให้ชาวนามีสิทธิใช้ที่ดินเข้าหุ้นกิจการพัฒนาเกษตรแบบอุตสาหกรรม นอกจากนี้ท่านยังได้มอบสิทธิในทรัพย์สินแก่ชาวนามากยิ่งขึ้น โดยใช้กฎหมายปกป้องสิทธิในการใช้ที่ดินตามสัญญาของชาวนา สิทธิชาวนาผู้เป็นสมาชิกวิสาหกิจชุมชน ผลักดันการจำนองค้ำประกัน และได้ผลักดันการแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิตอย่างเสมอภาค จัดสรรทรัพยากรสาธารณะอย่างสมดุล รวมถึงสร้างหลักประกันให้แรงงานจากชนบทให้ได้รับค่าแรงอย่างเท่าเทียมกับปริมาณงานที่ได้รับ

​ในส่วนแนวคิดการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ข้าพเจ้าชื่นชมและอยากให้นานาประเทศปฎิบัติตามได้แก่ การเดินบนหนทางการพัฒนาอย่างสันติ หรือนโยบายความมั่นคงภายในแบบ "สังคมสมานฉันท์" (harmonious society) และ "การเรืองอำนาจอย่างสันติ" (peaceful rise) โดยเฉพาะความมุ่งมั่นที่จะเร่งกระชับความร่วมมือให้เป็นหนึ่งเดียวกับประเทศกำลังพัฒนา เช่น กรณีจีนและแอฟริกา ที่ถือว่าเป็นหุ้นส่วนที่จริงใจต่อกันและเป็นมิตรแท้ตลอดกาล รวมถึงความมุ่งมั่นผสานกิจการการต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผ่านการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 และร่วมสร้างเขตเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมจีน

​นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังประทับใจนโยบายการปฎิรูปประเทศรอบด้านเชิงลึกของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเร่งแก้ไขปัญหาและผลักดันการปรับปรุงพัฒนาระบอบสังคมนิยมแบบอัตลักษณ์จีนอย่างต่อเนื่อง (ทั้งแนวทาง ทฤษฎี และระบบ) โดยในระยะที่ผ่านมาจีนได้ประสบกับปัญหาและอุปสรรคอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาไม่สมดุล ไม่สอดคล้อง ไม่ยั่งยืน ความสามารถในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีน้อย โครงสร้างการผลิตไม่สมเหตุสมผล รูปแบบการพัฒนาที่ฉาบฉวย ช่องว่างระหว่างเมืองเเละชนบท  ความขัดแย้งทางสังคม ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ปัญหาการจ้างงาน การประกันสังคม การรักษาพยาบาล ปัญหาด้านที่อยู่อาศัย ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยอาหารและยา ความปลอดภัยในการทำงานและความสงบของสังคม ความยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาผลประโยชน์ของประชาชน รวมถึงปัญหาพฤติกรรมรูปแบบนิยม พฤติกรรมเจ้าขุนมูลนาย พฤติกรรมสุขนิยม พฤติกรรมฟุ่มเฟือย เป็นต้น ฯลฯ ซึ่งหากข้าพเจ้าได้รับคัดเลือกเป็นปธน.แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน คงต้องถอนตัวกลับบ้านตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ปัญหาอุปสรรคดังกล่าวไม่ทำให้ท่านปธน. สี จิ้นผิง ย่อท้อแต่ประการใด ในทางตรงกันข้าม ท่านกลับนำมาเป็นแรงจูงใจ ในการกระตุ้นการพัฒนาประเทศจีนให้บรรลุความฝันและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองแห่งประชาชาติจีน

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (CMG)

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)