ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เริ่มตระหนักถึงปัญหาจากมลภาวะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโลกร้อนหรือปัญหาฝุ่นควันอย่าง PM 2.5 จึงเริ่มหันมารณรงค์ใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานทางเลือกแทน ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าวก็คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้เริ่มหันมาผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนแทนการใช้น้ำมันซึ่งเป็นอีกสาเหตุของการสร้างมลภาวะฝุ่นควันและก๊าซพิษขึ้นในชั้นบรรยากาศ ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีมานี้มีแบรนด์ยนตรกรรมยักษ์ใหญ่มากมายได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในตลาด และหนึ่งในนั้นซึ่งเป็นที่จับตามองในด้านการพัฒนารถประเภทนี้ก็คือบริษัท BYD จากประเทศจีน

รูปที่ 1 โลโก้แบรนด์ BYD

แบรนด์ BYD นั้นย่อมาจาก Build Your Dream โดยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1995 จากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ให้กับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมายจนขึ้นแท่นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำเป็นอันดับ 2 ของโลก ต่อมาในภายหลังได้ขยายกิจการมายังตลาดยานยนต์ด้วยการซื้อบริษัท Tsinchuan Automobile ให้เข้ามาเป็นบริษัทลูกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น BYD Auto Co และได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกออกมาเป็น รุ่น BYD F3 เป็นรถขนาดเล็ก (Compact Car) 4 ประตู ซึ่งยังคงเป็นรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงอยู่

จนกระทั่งในปี 2008 รัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนให้ทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อในประเทศหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนการใช้น้ำมัน ด้วยประสบการณ์จากการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำมาก่อน ทำให้ BYD มีความได้เปรียบในด้านการผลิตพัฒนาระบบไฟฟ้าที่ถูกใช้แทนเครื่องยนต์แบบเดิม จากนั้นได้มีการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นแรกออกมาก็คือ BYD F3DM แบบ Plug-in Hybrid ที่สามารถขับขี่ได้สองรูปแบบคือ แบบใช้ไฟฟ้า กับ แบบใช้ไฟฟ้าควบคู่ไปกับน้ำมันเบนซิน นี่ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการเข้าสู่ตลาดผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่รถรุ่นที่สร้างความนิยมจนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ BYD Qin ที่ขึ้นแท่นขายดีที่สุดในประเทศจีนในปี 2014 และเป็นอันดับ 4 ในบรรดารถปลั๊กอินจากทั่วโลกในปี 2015

แต่รถยนต์ส่วนบุคคลของ BYD ยังไม่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกมากนัก เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่ทำให้มีราคาค่อนข้างสูง ทางแบรนด์จึงขยายตลาดไปยังกลุ่มรถขนส่งสาธารณะ ที่ถึงแม้จะเปลี่ยนไปใช้เป็นระบบไฟฟ้าที่มีราคาแพง แต่มีค่าบำรุงรักษากับค่าเชื้อเพลิงที่ถูกกว่าจึงเหมาะสำหรับรถที่วิ่งเป็นระยะทางไกล ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพกับความคงทนของตัวรถ จึงได้เริ่มเปิดตัวรถแท็กซี่ไฟฟ้าและรถประจำทางไฟฟ้าในเมืองเซินเจิ้น จนกลายเป็นที่สนใจ ทำให้เมืองอื่นๆ เริ่มนำนวัตกรรมนี้มาปรับใช้ อาทิ  เมืองไท่หยวนนำรถแท็กซี่ไฟฟ้ามาเปลี่ยนแทนแบบเก่าที่ใช้น้ำมันทั้งหมด ส่วนเมืองหางโจวได้นำรถประจำทางไฟฟ้ามาแทนที่รถบัสแบบเดิมเช่นกัน ส่วนในต่างประเทศ รถประจำทางสาธารณะของ BYD ได้ไปวิ่งในหลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, เยอรมนี หรือแม้แต่ในประเทศไทย

รูปที่ 2 รถประจำทางจากแบรนด์ BYD

BYD ยังคงขยายตลาดเพื่อให้ครอบคลุมรถประเภทอื่น ๆ อีก จนในปัจจุบันได้กลายเป็นแบรนด์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ครบวงจร ที่มีทั้ง รถแท็กซี่, รถก่อสร้าง, รถโดยสารประจำทาง, รถยนต์ส่วนบุคคล, รถทำความสะอาดถนน อีกทั้งยังมีรถยนต์สำหรับใช้ในพื้นที่เฉพาะ เช่น รถใช้ในเหมือง, รถถ่ายโอนสินค้าทางเรือ, รถในคลังสินค้า, รถบัสในสนามบิน และล่าสุดมีการเปิดตัว รถรางโมโนเรล หรือ รถไฟฟ้ารางเดียว ที่เริ่มเปิดใช้งานในปี 2017 ที่เมืองหยินชวน เป็นระยะทางกว่า 5.67 กิโลเมตร

ความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD การันตีได้จากสถิติที่มียอดขายอันดับหนึ่งจากทั่วโลกตั้งแต่ปี 2015 - 2017 และในปี 2017 ก็ได้ทำยอดขายไปกว่า 113,669 คัน กวาดรายได้ไปกว่า 1.67 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ทำให้ปัจจุบัน BYD กลายเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างไฟฟ้าแทนการใช้เชื้อเพลิงที่สร้างมลพิษให้แก่โลก ซึ่งไม่ใช่เพียง BYD เท่านั้น แต่แบรนด์ยนตรกรรมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อย่าง Tesla, Nissan Leaf, และ Mitsubishi เองก็ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากมายมาให้เราได้เลือกชมกัน และสุดท้ายนี้การใช้รถยนต์สะอาดเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการช่วยลดมลภาวะของโลกเท่านั้น เรายังสามารถช่วยโลกโดยวิธีอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็นการนำสิ่งของกลับมาใช้ใหม่ ประหยัดพลังงาน หรือใช้พลังงานหมุนเวียน เพียงแค่นี้ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลภาวะให้แก่โลกของเราแล้ว

…………………………………………………………………...

ที่มาของรูปภาพ : รูปที่ 1 โลโก้แบรนด์ BYD https://dailycannon.com/2018/07/arsenal-byd-deal-could-have-been-agreed-with-fraudster-club-investigating/

ที่มาของรูปภาพ : รูปที่ 2 รถประจำทางจากแบรนด์ BYD https://en.byd.com/news-posts/byd-to-deliver-latin-americas-largest-electric-bus-fleet-379-buses/

ที่มาของข้อมูล :

https://www.marketingoops.com/news/biz-news/byd-chinese-electric-vehicle-brand/

https://www.blognone.com/node/101115

https://www.magcarzine.com/byd-vs-tesla-007/