เมื่อเร็ว ๆ นี้ สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนลงมติให้ปรับปรุงระบบเลือกตั้งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยกำหนดอย่างชัดเจนว่าต้องยึดมั่นนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบและหลักการให้ผู้รักชาติปกครองฮ่องกง เพื่อประกันนโยบายหนึ่งประเทศสองระบบให้ดำเนินไปอย่างมั่นคงในระยะยาว ฝ่ายต่าง ๆ คาดการณ์ว่า ระบบเลือกตั้งของเขตฮ่องกงที่ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั้นจะมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ต่อการทำให้ฮ่องกงมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาบ้านเมืองมากยิ่งขึ้น ทั้งยังรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง

ย้อนไปใน ค.ศ. 2018 ขณะพบปะกับคณะผู้แทนเขตฮ่องกงและมาเก๊าที่ไปเข้าร่วมงานเฉลิมฉลอง 40 ปีการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน นายสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “เขตฮ่องกงและมาเก๊าจะพัฒนาดียิ่งขึ้นท่ามกลางการมีส่วนร่วมในกระบวนการการพัฒนาบ้านเมือง” โดยเขากล่าวเน้นว่า ในกระบวนการเปิดกว้างของบ้านเมือง ฐานะและบทบาทของฮ่องกงและมาเก๊ามีแต่จะเข้มแข็งขึ้น อ่อนแอลงไม่ได้ หวังว่าฮ่องกงและมาเก๊าจะแสดงบทบาทนำหน้าเพื่อระดมเงินทุน เทคโนโลยี และบุคลากรไปเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาบ้านเมืองที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นและเปิดกว้างในระดับสูงยิ่งขึ้น

เป็นที่ทราบกันดีว่า ฮ่องกงเป็นท่าเรือการค้าเสรีและมหานครระหว่างประเทศที่เจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า และการขนส่งทางเรือที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นศูนย์กลางสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ เป็นเขตเศรษฐกิจที่เปิดเสรีมากที่สุดและมีพลังแข่งขันมากที่สุดในโลก แต่หลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจโลกและการแข่งขันระหว่างประเทศที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น เขตฮ่องกงมหานครสากลที่เปิดกว้างในระดับสูงแห่งนี้ได้เผชิญความท้าทายต่าง ๆ นานา ตลอดจนเกิดความวุ่นวายในสังคม การรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของเขตฮ่องกงกลายเป็นที่จับตามองของผู้คนทั้งหลาย

นักวิเคราะห์ลงความเห็นว่า การมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาบ้านเมืองให้มากยิ่งขึ้นเป็นทางเลือกสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาฮ่องกง รวมถึงรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง หลังดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศในทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา จีนพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและเข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งเพิ่มพูนชีวิตชีวาต่อฮ่องกงด้วย หลังจากฮ่องกงกลับคืนสู่มาตุภูมิใน ค.ศ. 1997 เป็นต้นมา เขตแดนชั้นในของจีนได้ขยายความร่วมมือกับเขตฮ่องกงอย่างต่อเนื่องและมีส่วนเกื้อกูลต่อกันมากยิ่งขึ้น โดยเขตแดนชั้นในกลายเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของเขตฮ่องกงและเขตฮ่องกงก็เป็นท่าเรือการค้าสำคัญที่สุดของเขตแดนชั้นใน ขณะเดียวกัน เขตฮ่องกงกับเขตแดนชั้นในยังเป็นแหล่งทุนต่างชาติอันดับหนึ่งของกันและกันอีกด้วย ฮ่องกงจึงมีศักยภาพในการมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาบ้านเมือง

หนึ่ง) เขตฮ่องกงมีความได้เปรียบด้านการเชื่อมโยงระหว่างตลาดภายในประเทศกับตลาดโลก ซึ่งจะช่วยให้บ้านเมืองเปิดกว้างอย่างรอบด้านและพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ทันสมัย สอง) การมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาบ้านเมืองจะเสริมพลังการแข่งขันของเขตฮ่องกงให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยจะมีโอกาสดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศระดับสูง ทั้งยังจะสะสมประสบการณ์ใหม่ด้านการปฏิรูปและเปิดกว้างของบ้านเมือง สาม) ปัจจุบัน เมืองต่าง ๆ ในเขตแดนชั้นในยังไม่สามารถมีบทบาททัดเทียมความเป็นศูนย์กลางของเขตฮ่องกงได้ ดังนั้น เขตฮ่องกงยังคงมีฐานะเป็นเอกลักษณ์ของตนเองต่อไปในกระบวนการการพัฒนาในอนาคตของจีน และสี่) ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โครงการพัฒนาเขตอ่าวใหญ่ระหว่างมณฑลกว่างตง-เขตฮ่องกง-เขตมาเก๊า และยุทธศาสตร์สำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมืองจะนำมาซึ่งจุดเติบโตใหม่ของฮ่องกง

นอกจากนี้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 และวิสัยทัศน์ปี 2035 ซึ่งที่ประชุมสองสภาปีนี้เพิ่งลงมติผ่านนั้นไม่เพียงแต่สนับสนุนให้เขตฮ่องกงยกฐานะความเป็นศูนย์กลางระหว่างประเทศด้านการเงิน การขนส่งทางน้ำ การค้า ชุมทางการบินระหว่างประเทศ ชุมทางระหว่างประเทศของธุรกิจนอกชายฝั่งแห่งสกุลเงินเหรินหมินปี้ (Offshore RMB business) ศูนย์บริหารทรัพย์สินระหว่างประเทศ และศูนย์บริหารความเสี่ยง เป็นต้น หากยังสนับสนุนให้ฮ่องกงพัฒนาเป็นศูนย์กลางสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ศูนย์บริการทางกฎหมายเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และศูนย์การค้าทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า แผนการพัฒนาบ้านเมืองของจีนได้ให้นโยบายและสิทธิพิเศษแก่เขตฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มพลังงานใหม่ต่อการพัฒนาของเขตฮ่องกง ด้วยเหตุนี้ การมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาบ้านเมืองให้มากยิ่งขึ้นจะเพิ่มโอกาสการพัฒนาของเขตฮ่องกง ช่วยให้เขตฮ่องกงพัฒนาเร็วยิ่งขึ้นและมั่นคงยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังจะช่วยรักษาความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของเขตฮ่องกงด้วย

（Tim/Zhou）