2021-03-24 08:39CMG
ปี 2020 จีนนำประชาชนหลุดพ้นความยากจนภายใต้มาตรฐานปัจจุบัน ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ได้มาจากการใช้ความพยายามและความขยันหมั่นเพียรของประชาชนทั้งปวงมาโดยตลอด จนถึงค.ศ. 2020 ใน “สนามรบ” แห่งการขจัดความยากจนนี้ มีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 1,800 คน รวมถึงสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนหลายคนที่ขอไปอยู่ในแนวหน้าของการขจัดความยากจนซึ่ง “หวง เหวินซิ่ว” ก็เป็นหนึ่งในนั้น
หวง เหวินซิ่ว เกิดใน ค.ศ. 1989 เข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่ง ระดับปริญญาโทวิชากฎหมาย ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 และได้รับเลือกเป็นนักศึกษาดีเด่นหลังกลับไปรับใช้บ้านเกิดที่เขตกว่างซี ในเดือนเดียวกันของปีนั้น บ้านเกิดเธออยู่ที่เมืองป่ายซื่อซึ่งเป็นเขตปฏิวัติเก่า เธอทำงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองป่ายซื่อ ต่อมาเดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 หวง เหวินซิ่วตอบรับความต้องการขององค์กรและสมัครใจไปเป็นเลขาธิการพรรคฯ ที่หมู่บ้านป่ายหนี ตำบลซิงฮั่ว อำเภอลื่อเยี่ย แต่ช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2019 หวง เหวินซิ่วเผชิญพายุฝนกระหน่ำระหว่างเดินทางกลับหมู่บ้าน ส่งผลให้เธอเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในวัยเพียง 30 ปี
ก่อนเตรียมสอบเข้าวิทยาลัย หวง เหวินซิ่วเลือกเรียนที่วิทยาลัยครุศาสตร์ “เธออยากเป็นครูและสอนหนังสือแก่เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน” พี่สาวของหวง เหวินซิ่ว กล่าวว่า ความฝันอันยิ่งใหญ่ที่สุดของน้องสาวเธอ คือ เปิดโรงเรียนอนุบาลในหมู่บ้าน
ในระหว่างเรียนระดับบัณฑิตศึกษา หวง เหวินซิ่วสนใจประเด็นเกี่ยวกับการศึกษาในเขตชนบทและการขจัดความยากจน ในปี ค.ศ. 2015 เธอไปเยี่ยมหมู่บ้านยากจนหลายแห่ง ระหว่างการฝึกสอนในห้องเรียนครั้งหนึ่ง หวง เหวินซิ่วบรรยายถึงความยากลำบากที่ต้องเผชิญด้านการศึกษาในพื้นที่ภูเขาชนบทอย่างลึกซึ้ง เธอกล่าวด้วยความจริงใจว่า "การศึกษาเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับอนาคตของหมู่บ้าน"
ก่อนจบการศึกษา หวง เหวินซิ่วใช้เวลาสองเดือนสำรวจพื้นที่ยากจนรวมทั้งเขตป่ายซื่อและเหอฉือเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับเขียนวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท
"ฉันมาจากพื้นที่ภูเขายากจนในเขตกว่างซี ฉันต้องการกลับไป สร้างความหวังแก่พี่น้องที่บ้านเกิด พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนความยากจนและความล้าหลังที่บ้านเกิดด้วยพลังเล็ก ๆ ของฉัน"
นี่คือความปรารถนาเริ่มแรกและความฝันดั้งเดิมของหวง เหวินซิ่ว นี่คือทางเลือกของเธอมาโดยตลอด
เดือนมีนาคม ค.ศ. 2018 เวลานั้นหวง เหวินซิ่วเริ่มดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านป่ายหนี ขณะที่หมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งหมด 472 ครัวเรือน แต่ยังมี 103 ครัวเรือนตกอยู่ในภาวะยากจน ความยากจนสูงถึง 23%
เป็นเวลานานกว่าหนึ่งปีที่หวง เหวินซิ่วปฏิบัติหน้าที่ที่หมู่บ้าน เธอช่วยชาวบ้านพัฒนาอีคอมเมิร์ซขายสินค้าพิเศษในท้องถิ่น เช่น ส้มเล็กหวานไปยังทุกส่วนของประเทศ เธอช่วยติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างตามถนนของหมู่บ้านทงถุน เพื่อให้ชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังไปเยี่ยมแต่ละครอบครัวในหมู่บ้านเพื่อบันทึกสาเหตุของความยากจนแต่ละครัวเรือนอย่างชัดเจน
นายปาน ถ่งม่าว ชาวหมู่บ้านป่ายหนี เคยเป็นผู้ยากจน ด้วยความช่วยเหลือของหวง เหวินซิ่ว เขาจึงกลายเป็นผู้นำหมู่บ้านเพื่อสร้างความร่ำรวย เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า มีการปลูกส้มหวาน 300 หมู่ในหมู่บ้านแต่ผลผลิตไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากความประมาทในการบริหาร หลังจากที่หวง เหวินซิ่วเข้ามาในหมู่บ้าน เธอได้จัดให้มีการบริหารจัดการแบบครบวงจร ทำให้ผลผลิตส้มหวานของที่นี่ใน ค.ศ. 2018 เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากที่ใน ค.ศ. 2017 มีผลผลิตเพียง 60,000 ชั่ง ส่วน ค.ศ. 2018 เพิ่มเป็นกว่า 500,000 ชั่ง นอกจากนี้ หวง เหวินซิ่วยังช่วยชาวบ้านติดต่อพ่อค้าและหาทุนจากหน่วยงานบรรเทาความยากจนจัดเป็นเงินช่วยเหลือพิเศษซ่อมแซมถนนในหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาการคมนาคม ทำให้ใน ค.ศ. 2018 เขตน่าย่งที่มีครอบครัวเพียง 8 ครัวเรือน 6 ครัวเรือนสร้างรายได้มากกว่า 100,000 หยวนจากส้มหวานเล็ก
หนึ่งปีหลังจากหวง เหวินซิ่วมาประจำที่หมู่บ้านป่ายหนี 88 ครัวเรือนได้หลุดพ้นความยากจน อัตราความยากจนลดลงเหลือ 2.7% รายได้ทางเศรษฐกิจส่วนรวมของหมู่บ้านสูงถึง 64,000 หยวน และหมู่บ้านป่ายหนียังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในหมู่บ้านอารยธรรมดีเด่นของประเทศใน ค.ศ. 2018
สตรีผู้นี้มาจากเขตชนบทของหมู่บ้านยากจนในอำเภอเถียนหยาง เมืองไป๋ซื่อ มีสภาพครอบครัวยากลำบากมาก หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่งใน ค.ศ. 2016 แล้ว เธอเลือกเป็นบัณฑิตที่กลับไปรับใช้บ้านเกิด ตอนที่เธอกลับถึงบ้าน บ้านของเธอเองเพิ่งหลุดพ้นความยากจน
ที่หอพักของเธอในหมู่บ้านป่ายหนี ผู้สื่อข่าวเห็นว่าในห้องขนาดประมาณ 10 ตารางเมตรที่หวง เหวินซิ่วเคยอาศัยอยู่นั้น นอกจากเตียงนอนแล้ว มีเพียงชั้นหนังสือธรรมดา โต๊ะคอมพิวเตอร์ และหมวกฟางที่เธอสวมตอนไปทำงานที่หมู่บ้านวางอยู่บนโต๊ะ บนชั้นวางหนังสือมีสมุดบันทึกของเธอสองเล่มที่เขียนประสบการณ์ระหว่างประจำที่หมู่บ้าน บอกเล่าถึงช่วงเวลากว่าหนึ่งปีที่หวง เหวินซิ่วมีความหวังให้ประชาชนหลุดพ้นความยากจนและก้าวสู่ความร่ำรวย รวมทั้งยังบันทึกการเติบโตขึ้นของเธอไว้ในทุกขั้นตอน
"ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม จนถึงปัจจุบัน รวม 67 วัน ฉันเป็นผู้รับผิดชอบอันดับแรกของงานบรรเทาความยากจนของหมู่บ้านเรา ฉันยังไม่กล้าพอ"
"วันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 แบรนด์สวนอุตสาหกรรมของหมู่บ้านเราทำงานอย่างหนักและหัวหน้าทีมสร้างความร่ำรวย 5 คนก็กำลังรับการอบรมอยู่ ทุก ๆ วันเป็นวันที่ทำได้ยาก แต่ฉันก็มีความสุขมากในใจ"
"วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2018 ฉันพบว่าภาษาถิ่นของฉันดีขึ้น ฉันสามารถสื่อสารกับครอบครัวยากจนด้วยภาษาถิ่นกุ้วหลิ่วได้แล้ว"
ช่วงเช้าวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2018 ญาติพี่น้องและประชาชนที่มาส่งหวง เหวินซิ่วรวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงอำลาของฌาปนสถานเมืองป่ายซื่อ ท่ามกลางดอกไม้และต้นสนสีเขียว โกศของหวง เหวินซิ่วคลุมด้วยธงสีแดงสดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภาพของหวง เหวินซิ่วแขวนอยู่กลางห้องโถงอำลาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสในภาพถ่าย
เวลา 4 โมงเช้าวันเดียวกัน นายปาน จื้อหวา ผู้อำนวยการคณะกรรมการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านป่ายหนี และชาวบ้านหลายสิบคน ออกเดินทางท่ามกลางความมืดเพื่อเข้าร่วมพิธีอำลาหวง เหวินซิ่วที่เมืองป่ายซื่อ
รองศาสตราจารย์ ห่าว ไห่เยี่ยน อาจารย์ประจำสถาบันวิชาปรัชญา มหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่ง ยืนอยู่หน้าภาพถ่ายของหวง เหวินซิ่วเพื่ออำลาเธอพร้อมน้ำตาไหลริน เธอเดินทางจากกรุงปักกิ่งเพื่อแสดงความไว้อาลัยเป็นพิเศษ ในใจของเธอ หวง เหวินซิ่วเป็นคนช่างคิดมาก
“เธอมีทางเลือกมากมายจากความสามารถของเธอ จะทำงานที่ปักกิ่งหรือต่างประเทศก็ไม่มีปัญหา แต่เธอยังคงมุ่งมั่นกลับมาอีก เธอไม่สามารถทิ้งบ้านเกิดที่เธอรักมาตลอด เพราะญาติพี่น้องและสมาชิกครอบครัวของเธออยู่ที่นี่”
ในโมเมนต์วีแชทของหวง เหวินซิ่ว เธอมักโพสต์ภาพถ่ายหมู่บ้านป่ายหนีของเธอเสมอ หลังหวง เหวินซิ่วจากไป นางจาง เจียงเยี่ยนเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พร้อมเพื่อนร่วมชั้นได้เดินทางไปยังเมืองป่ายซื่อในวันที่ 21 มิถุนายน เพื่อดูว่าเธอทำงานและพักอยู่ที่ไหนตอนมีชีวิตอยู่ และเพื่อตามรอยเส้นทางที่เธอผ่านทุกคืน ในการเดินทางครั้งนั้น จาง เจียงเยี่ยนเข้าใจทางเลือกดั้งเดิมของหวง เหวินซิ่ว
“การกลับบ้านเกิดเพื่อช่วยให้บ้านเกิดของเธอหลุดพ้นความยากจนและร่ำรวยขึ้นเป็นภารกิจในใจของเธอ” จาง เจียงเยี่ยน กล่าว
ในกลุ่มวีแชท วิชาปรัชญาและสังคมวิทยา ระดับปริญญาโท ปี 2013 ของมหาวิทยาลัยครุศาสตร์ปักกิ่ง นายชิว เจี้ยนจงเพื่อนร่วมชั้นของหวง เหวินซิ่วฝากข้อความไว้ว่า “ความคิดที่เปิดกว้างของเหวินซิ่วเป็นแบบอย่างของศิษย์เก่าและคนในรุ่นเรา การแสดงความไว้อาลัยต่อเหวินซิ่วเป็นการแสดงความเคารพนับถือจิตใจที่ยุคสมัยของเราจำเป็นและล้ำค่า นั่นก็คือจิตใจแห่งการอุทิศตนเพื่อกิจการสร้างสรรค์ประเทศชาติ”
Tim/lei/Lu