รูปที่1: เทคโนโลยี

บริษัทที่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีในประเทศจีนมีให้เห็นอยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือ Bytedance ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในแดนมังกร และเป็นเจ้าของแอปพลิเคชัน ชื่อว่า Tiktok ได้รับความนิยมในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างคลิปวิดีโอ ร้องเพลง ทำอาหาร เต้น หรืออะไรก็ได้ตามความชอบส่วนบุคคล แต่ถ้าเป็นคลิปวิดีโอที่สร้างสรรค์ก็จะได้รับการเข้าชมที่มากพอสมควร เพราะความนิยมที่ไม่มีแนวโน้มจะลดน้อยลงกับ Tiktok บทความนี้จึงมีความประสงค์พาไปทำความรู้จักผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของ Tiktok

ทำความรู้จัก Zhang Yiming

จาง อีหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัท Bytedance ในภาษาจีนเรียกว่า 字节跳动 บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนที่กำลังมาแรงในตอนนี้ และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Tiktok ก่อนไปทำความรู้จัก Tiktok มารับฟังเรื่องราวประวัติของจาง อีหมิงกันก่อน เขาจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหนานไค ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่โด่งดังของประเทศจีน หลังจากคว้าปริญญาจากมหาวิทยาลัยหนานไคในปี ค.ศ. 2006 จาง อีหมิง สั่งสมประสบการณ์การทำงานที่แรกในบริษัท Kuxun ผู้ให้บริการด้านการจองที่พักออนไลน์ หลังจากนั้นเขาย้ายไปงานที่บริษัทไมโครซอฟท์ เส้นทางสู่ความสำเร็จของ จาง อีหมิง เกิดจากการสังเกตสิ่งรอบตัวเขา โดยในปี ค.ศ. 2011 จาง อีหมิง เริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมการเปลี่ยนไปของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการสืบค้นข้อมูลต่างๆ มักทำผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงเวลานั้นพวกเขาเริ่มหันไปใช้โทรศัพท์สืบค้นข้อมูล และทำกิจกรรมอีกมากมาย ดังนั้น จาง อีหมิง จึงไอเดียการสร้างแพลตฟอร์มคอนเทนต์โดยนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วย และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Toutiao แพลต์ฟอร์มที่ชาวจีนนิยมในปัจจุบัน โดยประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์คัดเลือกเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น จาง อีหมิง ค้นหาคำว่า กีฬา ปัญญาประดิษฐ์ก็จะเลือกโชว์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกีฬาบนหน้าฟีดของเขาใน Toutiao

จาง อีหมิง ไม่หยุดเพียงแค่ Toutiao เขายังพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ออกมาโดยมีชื่อว่า Douyin หลายคนมีคำถาม ระหว่าง Douyin กับ Tiktok มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ในหัวข้อถัดไปจะพาไปหาคำตอบ

Douyin หรือ Tiktok สรุปต้องเรียกอันไหน?

รูปที่2: ป้ายโฆษณา Douyin ในประเทศจีน

หากพูดถึง Douyin ในต่างประเทศหลายคนคงไม่คุ้นหูนัก เพราะแอปพลิเคชันนี้เป็นที่รู้จักกันแบบสากลว่า Tiktok แต่สำหรับชาวจีน เรียกแอปพลิเคชันนี้ว่า Douyin ซึ่งจะเรียกแบบไหนก็ได้ไม่มีผิดขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล โดยความแตกต่างของ สองแอปพลิเคชันนี้คือ Douyin สามารถใช้งานได้เฉพาะชาวจีน ส่วน Titkok เปิดให้ผู้คนทั่วโลกได้ใช้ เบื้องหลังของ Tiktok เริ่มต้นจาก Douyin แอปพลิเคชันสร้างสรรค์วิดีโอและรับชมวิดีโอสัญชาติจีน หลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่เดือน Douyin ได้รับความสนใจมากมายจากชาวจีน โดยมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 100 ล้านครั้ง และมีผู้เข้าชมวิดีโอกว่า 1,000 ล้านครั้งต่อวัน เพราะจาง อีหมิง เห็นถึงความสำเร็จของ Douyin ในประเทศจีน จึงอยากขยายอาณาจักรแอปพลิเคชันสร้างสรรค์วิดีโอแห่งนี้สู่สากลโลก และผลลัพธ์เป็นแบบที่เขาหวังไว้ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย บุคคลที่มีชื่อเสียง เหล่าเน็ตไอดอล หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปหันมาใช้งาน Tiktok เพราะในแอปพลิเคชัน มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้ในตอนถ่ายวิดีโอ พร้อมทั้งสามารถรับชมวิดีโอของผู้อื่นที่เผยแพร่ลงบนแอปพลิเคชันได้ อาจกล่าวได้ว่า Tiktok ทำให้ช่วงเวลาของการกักตัวระหว่างสถานการณ์การแแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่หงอยเหงาอีกต่อไป เหตุนี้จึงทำให้ในปี 2020 แอปพลิเคชัน Tiktok มียอดดาวน์โหลดถึง 2,000 ล้านครั้ง ฟีเจอร์เด่นอีกอย่างที่ทำให้ Tiktok ครองใจใครหลายคน คือการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้กับความชอบส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน โดยใช้คำค้นหาที่เขาพิมพ์หาสิ่งที่สนใจ เนื้อหาวิดีโอที่กดไลก์ ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่จาง อีหมิง นำไปใช้ใน Toutiao เพื่อคัดสรรคอนเทนต์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน

จาง อีหมิง เป็นคนช่างสังเกต โดยเขาเลือกที่จะโฟกัสในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว อย่างเช่น การสังเกตจากผู้คนรอบตัวเริ่มค้นหาคอนเทนต์ผ่านสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น โดยในอดีต คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักในการสืบค้นข้อมูล นอกจากนี้ จาง อีหมิง เคยพูดกับพนักงานคนรุ่นใหม่ในบริษัทของเขาว่า 1.ต้องไม่หยุดพัฒนา 2.คิดบวก ไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 3.ไม่ตีค่าตัวเองต่ำเกินไป 4.ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว และข้อสุดท้าย เลือกสิ่งที่สำคัญและส่งผลกับอนาคต เช่น การทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัพท้องถิ่น มีจำนวนพนักงานน้อย และต้องใช้ทักษะเยอะในการทำงาน ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา แตกต่างการทำงานบริษัทมหาชน ที่มีลำดับขั้นตอนการทำงานชัดเจน ซึ่งอาจเป็นการตีกรอบให้กับความสามารถของตน และนี่คือ 5 คำแนะนำ ที่จาง อีหมิง อยากให้คนรุ่นใหม่ได้จดจำไว้

หากทำตามคำสอนของ จาง อีหมิง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็สามารถเอาตัวรอดได้

ที่มาของบทความ

https://telecom.economictimes.indiatimes.com/news/bytedance-the-worlds-most-valuable-startup-weighs-selling-tiktok/72949355

https://www.longtunman.com/14904

https://www.longtunman.com/23800

https://2.flexiple.com/founders/zhang-yiming

https://wealthmeup.com/lessonfromtiktok/

https://themomentum.co/bytedance-plans-assault-on-mobile-gaming/

https://forbesthailand.com/world/technology/asia-technology/bytedance-vs-tencent-สตาร์ทอัพวิดีโอ-douyin-กำล.html

https://www.levelupthailand.com/post/2018/09/30/tik-tok-douyin-e0-b9-81-e0-b8-ad-e0-b8-9e-e0-b8-88-e0-b8-b5-e0-b8-99-e0-b8-a1-e0-b8-b2-e

ที่มาของรูปภาพ

รูปที่1: https://www.china-briefing.com/news/can-china-develop-digital-infrastructure-without-us-assistance/

รูปที่2: https://www.bbc.com/future/article/20201117-how-china-social-media-apps-are-changing-technology