“กลางดึก” “อาจารย์ที่ปรึกษา” “นักศึกษาปริญญาโท” เมื่อเห็นสามคำนี้คุณจะนึกถึงอะไร

บางคนอาจจะนึกถึงภาพของห้องวิจัยในเวลากลางดึกที่ยังคงเปิดไฟและมีนักศึกษาและอาจารย์ช่วยกันทำงานวิจัยอยู่ หรือบางคนอาจจะนึกถึงภาพอาจารย์ที่ปรึกษาส่งงานมาให้แก้กลางดึก ภาพเหล่านี้อาจเป็นภาพคุ้นชินสำหรับชาวจีน..แต่วันนี้สามคำนี้กลับไม่เกี่ยวข้องกับห้องวิจัย หรือ งานวิจัย แต่เป็นเรื่องราวของ “การดูตัว”

ณ มณฑลจี่หนาน เขาเชียนฝัวซาน นักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฉีหลูได้พาอาจารย์ที่ปรึกษาไปร่วมงาน “เทศกาลงานหาคู่ดูตัว” ซึ่งชาวจีนนิยมจัดกันตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่มหาวิทยาลัย สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า และมีจัดทั้งเวลากลางวันและกลางคืนอีกด้วย

หลังจากออกจากห้องวิจัย ฟ้าก็มืดแล้ว ……นักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษา ทั้งคู่ได้มาร่วมงาน “เทศกาลงานหาคู่ดูตัว” นักศึกษาปริญญาโทได้พูดว่า “ผมเป็นนักศึกษาปริญญาโทของอาจารย์ครับ พวกเรามาดูงานดูตัวด้วยกัน อาจารย์ผมอายุไม่เยอะครับ เกิดปี ค.ศ. 1993 และจบจากมหาวิทยาลัยซีเตี้ยน ตอนนี้ยังโสดครับ” เขาได้พูดแทนอาจารย์ที่ปรึกษาที่มาดูตัวด้วยกัน เพราะอาจารย์ยังคงเขินอายไม่กล้าพูดอยู่ และนี่ก็ถือเป็นโอกาสแรกที่เขาได้ทำหน้าที่พูดแทนอาจารย์ และเขาก็คิดว่าในที่สุดก็มีเรื่องที่อาจารย์ไม่ถนัดอยู่บ้าง เพราะปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นงานประชุมวิชาการ การนำเสนองานวิจัย อาจารย์ต่างก็เชี่ยวชาญและสามารถนำเสนอได้อย่างมั่นใจ และผลจากการดูตัวครั้งนี้ อาจารย์หนุ่มท่านนี้ก็ได้รับความนิยมจากสาว ๆ มากหน้าหลายตากันเลยทีเดียว...

และหากมองย้อนกลับมาเรื่องนี้ ตอนผู้เขียนอยู่ที่เมืองจีน ก็มีโอกาสได้ไปงานหาคู่กับเพื่อนชาวจีน และก็ทำให้รู้ว่า ชาวจีนที่เรียนอยู่ในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก รวมทั้งอาจารย์ระดับรองศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์อายุน้อยหลายคนยังคงสถานภาพโสด เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ ?

“เรียนสูง มีความพร้อมรอบด้าน แต่ก็ยังโสด” เป็นเรื่องหนึ่งที่ชาวจีนกังวลเป็นอย่างมาก ชาวจีนว่ากันว่า บางทีอาจจะมาจากสาเหตุการต้องการเลือกคู่ครองให้เหมาะสมกับตนเอง ซึ่งปัจจุบันหนุ่มสาวชาวจีนจบการศึกษาค่อนข้างสูงและมีความคาดหวังต่อคู่ครองที่สูงขึ้น การจะหาคู่ครองที่เหมาะสมจึงมีวิธีการเลือกที่แตกต่างกันออกไป เช่น “จะหาคู่ที่เหมาะสมก็ต้องดูระดับวารสารที่เขาตีพิมพ์” “จะหาคู่ที่เหมาะสมก็ต้องดูลำดับมหาวิทยาลัยที่เรียนจบ” “จะหาคู่ที่เหมาะสมก็ต้องดูวุฒิการศึกษาสูงสุด” “จะหาคู่ที่เหมาะสมก็ต้องหาคนที่มีฐานะ ระดับการศึกษาใกล้เคียงกัน” หรือแม้กระทั่งบางคนอยากรู้ว่าคู่ดูตัวของตัวเองเป็นคนยังไง ก็จะนำชื่อของเขาไปค้นในฐานข้อมูลวิชาการ ดูผลงานตีพิมพ์ของเขาว่าเปนยังไงบ้าง แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงปัจจัยส่วนหนึ่งของการหาคู่เท่านั้น เพราะนอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้วส่วนสำคัญยังคงเป็นเรื่องของลักษณะนิสัยและความเข้าใจกันมากกว่า

และนี่เป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของการหาคู่ของชาวจีนที่นำมาฝากกันค่ะ จากเรื่องเล่านี้ก็ทำให้เห็นว่า สังคมจีนมีการเปลี่ยนแปลงจากอดีตไปมาก การเลือกคู่ครองของชาวจีนมีความเป็นอิสระมากขึ้น หนุ่มสาวชาวจีนสามารถเลือกคู่ครองที่พึงพอใจด้วยตนเองได้ และมีช่องทางการเลือกคู่ที่หลากหลาย เป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมจีนอีกอย่างหนึ่ง

ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ https://mp.weixin.qq.com/s/PcOhCxo51Zr1gPvjLC4Vbw