อาหารจีนเลิศรส หลัวซือเฝิ่น หมี่ยอดฮิตฝ่าโควิดทะลุโลก (2)

2021-05-21 17:04

อาหารจีนเลิศรส หลัวซือเฝิ่น หมี่ยอดฮิตฝ่าโควิดทะลุโลก (2)_fororder_20210521-1

อาหารจีนเลิศรส หลัวซือเฝิ่น หมี่ยอดฮิตฝ่าโควิดทะลุโลก (2)_fororder_20210521-2

รูปที่ 1-2  อุตสาหกรรมการทำหมี่หอยขมสำเร็จรูป

ในตอนที่แล้วผู้เขียนได้เล่าถึงลักษณะ รสชาติของหลัวซือเฝิ่น(螺狮粉)หรือหมี่หอยขมว่าเป็นอย่างไร และเหตุใดถึงได้มียอดขายถล่มทลายทั่วทั้งประเทศจีน โดยเฉพาะในช่วงระหว่างการระบาดของโรคไวรัสโควิด 19

ร้านขายหมี่หอยขมจึงไม่ได้จำกัดเพียงแค่เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีนอีกต่อไป แต่ยังได้ขยายไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วทั้งประเทศจีนอีกด้วย เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ หรือแม้กระทั่ง ฮ่องกงและมาเก๊า ด้วยกลิ่นและรสชาติแปลกใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของหมี่หอยขม ไม่เพียงแต่ทำให้เป็นที่ถูกปากถูกใจของหมู่ชาวจีนเท่านั้น ยังทำให้ชาวต่างชาติที่ได้ลิ้มลองกลิ่นและรสชาติของหมี่หอยขมแล้วเกิดติดอกติดใจเช่นกัน เพราะฉะนั้น นอกจากยอดขายถล่มทลายในจีนแล้ว ยังส่งผลให้หมี่หอยขมกึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าส่งออกไปยังต่างประเทศหลายประเทศอีกด้วย เช่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย ยุโรปบางประเทศ รวมถึงนิวซีแลนด์และสิงคโปร์

อาหารจีนเลิศรส หลัวซือเฝิ่น หมี่ยอดฮิตฝ่าโควิดทะลุโลก (2)_fororder_20210521-3

รูปที่ 3 ภาพบรรยากาศในห้องเรียนของวิทยาลัยอุตสาหกรรมหมี่หอยขม

หมี่หอยขม จึงไม่เป็นเพียงหมี่ธรรมดาที่ขายริมทางอีกต่อไป ด้วยความต้องการอย่างทะลักทะล้นของผู้บริโภค ทำให้จีนเกิดปรากฏการณ์ต่างๆ มากมายขึ้นในจีน มีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมสำหรับทำหมี่หอยขมขึ้น มีอัตราการจ้างแรงงานชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรเพื่อผลิตหมี่หอยขมกึ่งสำเร็จรูป แม้กระทั้งรัฐบาลเมืองหลิ่วโจว วิทยาลัยเทคนิคอาชีวะหลิ่วโจว และภาคธุรกิจ ได้ร่วมกันจัดตั้งวิทยาลัยอุตสาหกรรมหมี่หอยขมแห่งแรกของจีนขึ้นในปี 2020 โดยวิทยาลัยแห่งนี้ได้เปิด 7 สาขาวิชาเอก มีทั้งในด้านของการผลิต การตรวจสอบอาหาร การบริหารจัดการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ การผลิตสื่อโฆษณา การตลาด และอีคอมเมิร์ซ โดยแต่ละปีจะเปิดรับนักศึกษาประมาณ 500 คนเลยทีเดียว

จริงๆ แล้วหมี่หอยขมอาหารจีนเลิศรสที่นำพาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างพุ่งพรวดนี้มีประวัติที่มาไม่นานนัก ชาวบ้านพื้นเมืองหลิ่วโจวเล่ากันว่าริเริ่มมีมาตั้งแต่ประมาณปี 1950-1960 และเริ่มมีการขายอย่างจริงจังในต้นทศวรรษปี 1980 โดยมีเรื่องเล่าที่มาต่างๆ กัน

บ้างเล่าว่า กลางทศวรรษปี 1980 มีพนักงานร้านขายของชำคนหนึ่ง มักจะนำเอาหมี่อบแห้งไปร้านของยายเฒ่าที่ขายหอยขมอยู่ข้างๆ ภายหลังก็มีอีกคนนำผักมาเพื่อใส่ต้มด้วยกัน ยายเฒ่าขายหอยขมเมื่อได้ลิ้มรสแล้วรู้สึกประทับใจในรสชาติของอาหารชนิดนี้ จึงได้เริ่มขายหมี่หอยขมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

บ้างก็เล่าว่า ในคืนหนึ่งของต้นทศวรรษปี 1980 ได้มีคนต่างพื้นที่มายังเมืองหลิ่วโจวและได้แวะร้านขายหมี่ที่กำลังเตรียมจะปิดร้าน ในเวลานั้นซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมูได้ขายจนหมดแล้ว เหลือเพียงแต่น้ำที่ใช้สำหรับลวกหอยขม เจ้าของร้านจึงได้นำหมี่ใส่ไปต้มกับน้ำที่ใช้สำหรับลวกหอยขม แล้วเพิ่มผักและถั่วลิสง ซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่ยังพอเหลืออยู่ในขณะนั้นลงไป หลังจากที่ลูกค้าต่างถิ่นได้ทาน ต่างพูดชมถึงความอร่อยของหมี่หอยขมนี้ไม่ขาดปาก หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไป พ่อค้านักประยุกต์จึงได้ปรับปรุงรสชาติต่อไปเรื่อยๆ จนได้กลายเป็นหมี่หอยขมแสนอร่อยในปัจจุบันนี้

ที่มารูปภาพ

รูปที่ 1-2

https://cimg.fx361.com/images/2021/05/08/filesntD110000huanqiusb_20210508_1-1-04resbrief.jpg

https://cdn2.ettoday.net/images/5591/d5591095.jpg

รูปที่ 3 https://img3.chinadaily.com.cn/images/202011/02/5f9f9cc3a3101e7c92053edc.jpeg

แหล่งข้อมูล

https://zh.wikipedia.org/wiki/%E8%9E%BA%E8%9B%B3%E7%B2%89

http://www.wzflsf.com/m/news/348.html

http://www.gx833.com/utdpd/art_514.html

https://www.youtube.com/watch?v=2G-ZM_nR1Ks

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face

Not Found!(404)