วันที่ 22 ก.ค. สำนักงานสารสนเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีนจัดการประชุมแถลงข่าว เจ้าหน้าผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องของคณะกรรมการสุขอนามัยแห่งชาติจีน ห้องทดสอบความปลอดภัยทางชีวภาพของประเทศอู่ฮั่นแห่งสภาวิทยาศาสตร์จีน ระบุถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องของการสืบหาต้นตอโควิด-19 โดยพวกเขากล่าวว่า รายงานการวิจัยร่วมที่เกี่ยวข้องกับจีนของการวิจัยสืบหาต้นกำเนิดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นสามารถผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ ในระยะต่อไปควรดำเนินการวิจัยสืบหาต้นกำเนิดในหลายประเทศทั่วโลก

วันที่ 30 มี.ค. องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศรายงานว่าด้วยผลการวิจัยร่วมที่เกี่ยวข้องกับจีนของการสืบหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งจัดขึ้นโดย WHO เอง ในการประชุมแถลงข่าวที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค. นั้น นายเจิง อี้ซิน รองผู้อำนวยการคณะกรรมการสุขอนามัยแห่งชาติจีน กล่าวเน้นอีกครั้งว่า จีนยืนหยัดหลักการเปิดเผย โปร่งใส ถูกหลักวิทยาศาสตร์ และร่วมมือกัน โดยได้ สนับสนุนการทำงานของทีมผู้เชี่ยวชาญของ WHO อย่างเต็มที่ จัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ตอบสนองความต้องการเยือนสถานที่ต่าง ๆ ของผู้เชี่ยวชาญของ WHO อย่างเต็มที่ จัดผู้เชี่ยวชาญ WHO ไปเยี่ยมชมหน่วยงานที่พวกเขาอยากไปทุกที่ และพบผู้คนที่พวกเขาอยากพบทุกคน นายเจิง อี้ซิน กล่าวว่า กระบวนการเรียบเรียงรายงานนั้นเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด ส่วนผลการวิจัยก็ผ่านการตรวจสอบของวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ได้

สำหรับการวิจัยด้านการสืบหาต้นกำเนิดในระยะต่อไปนั้น นายเหลียง ว่านเหนียน หัวหน้าฝ่ายจีนของทีมผู้เชี่ยวชาญการวิจัยร่วมด้านการสืบหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จีน-WHO กล่าวว่า จากการวิจัยด้านการสืบหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องของนักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศ พบผลการวิจัยหลายประการซึ่งพิสูจน์ว่า เวลาปรากฏตัวในหลายพื้นที่ทั่วโลกเกิดขึ้นก่อนเวลาที่ทราบก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงว่าอู่ฮั่นอาจจะไม่ใช่สถานที่อุบัติขึ้นอย่างชัดเจนของเชื้อไวรัสโควิด-19 การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นมีรูปแบบที่สลับซับซ้อนและเป็นแบบหมุนเวียนที่เริ่มต้นจากมนุษย์หรือสัตว์ แพร่ถึงสิ่งของแล้วจากสิ่งของแพร่ถึงมนุษย์ แล้วจากมนุษย์แพร่ถึงสิ่งของอีกรอบ

Zhou/Dan/Tim