2021-08-04 11:04ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
เมื่อเร็วๆ นี้ คลังสมอง CGTN ที่สังกัดสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งชาติจีนได้ทำประชามติสอบถามความคิดเห็นของชาวเน็ตทั่วโลกเกี่ยวกับการสืบหาต้นตอเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยภาษาทางการของสหประชาชาติรวม 6 ภาษา ผลปรากฏว่า ชาวเน็ต 83.1% สนับสนุนให้องค์การอนามัยโลกเร่งดำเนินการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่สหรัฐฯ
ช่วงที่ผ่านมา ข้อพิรุธในการรับมือการระบาดของโควิด-19ในสหรัฐฯถูกเปิดโปงออกมาเพิ่มขึ้นทุกวัน เช่น วันเวลาพบผู้ป่วยรายแรกต้องปรับให้เร็วขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และได้พบผู้ป่วยทางเดินหายใจที่ไม่ทราบสาเหตุหลังปิดการดำเนินการของห้องปฏิบัติการ Fort Detrick อีกทั้งยังได้เกิดอุบัติเหตุที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสโคโรนาในห้องปฏิบัติการของ The University of North Carolina หลายครั้ง
สิ่งที่ยิ่งแปลกประหลาดคือ สหรัฐฯรู้ล่วงหน้าหนึ่งเดือนว่า จะเกิดโรคระบาดที่เมืองอู่ฮั่น หนังสือพิมพ์ The Time of Israel ของอิสราเอลรายงานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ฝ่ายทหารสหรัฐฯได้แบ่งปันข่าวกรองกับอิสราเอล และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(องค์การนาโต) โดยมีการคาดการณ์ในข่าวกรองว่า จะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งในเร็วๆนี้ ข่าวกรองของสหรัฐฯยังได้เอ่ยถึงเมืองอู่ฮั่นของจีนด้วย ต่อการนี้ สื่อรัสเซียแสดงความเห็นว่า ข่าวกรองของสหรัฐฯดังกล่าวทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า คณะผู้แทนสหรัฐฯที่เดินทางไปเข้าร่วมงานกีฬาทหารโลกที่เมื่องอู่ฮั่นของจีนเมื่อกลางเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 เป็นผู้ที่นำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าไปยังเมืองอู่ฮั่นของจีนหรือเปล่า
แม้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะผู้เชี่ยวชาญจีนกับองค์การอนามัยโลกได้ประกาศรายงานการสำรวจต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะเกิดการรั่วไหลของเชื้อไวรัสจากห้องปฏิบัติการ แต่นักการเมืองสหรัฐฯ กลับพยายามกดดันให้องค์การอนามัยโลกดำเนินการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จีนเป็นระยะที่สอง เพื่อปิดบังข้อพิรุธของตนในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 การกระทำของสหรัฐฯที่ทำให้การสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายเป็นประเด็นทางการเมืองนั้นจึงถูกประชาคมโลกประณามอย่างหนัก
จนถึงขณะนี้ มีประมาณ 70 ประเทศส่งจดหมายถึงองค์การอนามัยโลก โดยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า เห็นด้วยกับผลสำรวจต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขั้นตอนแรก และคัดค้านความมุ่งหมายใดที่จะให้การสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายเป็นประเด็นทางการเมือง
ความคิดเห็นร่วมกันของประชาคมโลกดังกล่าวได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งจากผลการทำประชามติสอบถามความเห็นของชาวเน็ตทั่วโลกที่ดำเนินการโดยคลังสมอง CGTN
ชาวเน็ตที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส 84% ที่เข้าร่วมการทำประชามติครั้งนี้ แสดงความคิดเห็นผ่าน YouTube ว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯทำการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ส่วนข้อมูลจาก VKontakte เว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในรัสเซียแสดงให้เห็นว่า ชาวเน็ตรัสเซีย 91.86 % แสดงความคิดเห็นว่า การที่สหรัฐฯผลักดันการสืบหาต้นตอของไวรัสโควิด-19นั้น มีวัตถุประสงค์ที่จะได้ประโยชน์ทางการเมือง ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ชาวเน็ตประเทศต่างๆทั่วโลกตระหนักดีว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯมอบหมายให้หน่วยข่าวกรองรับผิดชอบในการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19นั้น เพียงเพื่อเบนสายตาชาวโลก และบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบของตน จึงเป็นการเล่นเกมการเมืองทั้งสิ้น
นักการเมืองสหรัฐฯพูดอยู่เสมอว่า ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ความจริง ถ้านักการเมืองสหรัฐฯปากตรงกับใจ ก็ต้องเปิดประตูให้ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกเข้าไปสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19ในสหรัฐฯ ตามหลักการเปิดกว้างและมีความโปร่งใส ส่วนองค์การอนามัยโลกก็ควรรับฟังความเห็นของชาวเน็ตทั่วโลก ดำเนินการสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโควิด-19ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีข้อพิรุธมากที่สุดในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19โดยด่วน เพื่อให้ประชาชนทั่วโลกจะได้รู้ข้อเท็จจริง
(yim/cai)
เนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face