2021-08-09 15:45CRI
วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งแรกของฟอรั่มระหว่างประเทศเพื่อความร่วมมือด้านวัคซีนโควิด-19 โดยสัญญาว่า จีนจะใช้ความพยายามสุดความสามารถต่อไปเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ตลอดปีนี้ จีนจะอำนวยวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้แก่ทั่วโลก นอกจากนี้ จีนยังจะบริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่โครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 เพื่อใช้ในการจัดสรรวัคซีนโควิด -19 ให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา
ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศต้านโรคระบาดนี้อย่างขนานใหญ่ ถือเป็นปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมอันเร่งด่วนและมีขอบเขตกว้างขวาง ภายหลังสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นเมื่อค.ศ. 1949 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันจีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ 150 กว่าประเทศและ 10 กว่าองค์การระหว่างประเทศแล้ว
ทว่าความช่วยเหลือต่างประเทศของจีนไม่ได้จำกัดอยู่ที่ปฏิบัติการต้านโควิด-19 ครั้งนี้ครั้งเดียว ตลอด 70 กว่าปีที่ผ่านมา จีนในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่ปฏิบัติตามจิตวิญญาณความเป็นสากลและมนุษยธรรมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ได้ให้ความช่วยเหลือกับกว่า 160 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศอย่างเต็มความสามารถและปราศจากเงื่อนไขทางการเมือง ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างใต้กับใต้
วัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือต่างประเทศของจีนคือ ส่งเสริมให้บรรดาประเทศกำลังพัฒนาสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของชาติด้วยตนเองเป็นสำคัญ ซึ่งการช่วยเหลือต่างประเทศของจีนประกอบด้วย 8 ด้าน ได้แก่ ตั้งโครงการชุด, สนับสนุนวัสดุก่อสร้างพื้นฐาน, ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี, ความร่วมมือเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, การจัดส่งทีมแพทย์เพื่อช่วยเหลือต่างประเทศ, ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเพื่อรับมือภาวะฉุกเฉิน, อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือต่างประเทศ และการบรรเทาหนี้สิน
การเกษตรเป็นด้านแรกที่จีนมุ่งให้ความช่วยเหลือก่อน นานมากแล้ว ที่จีนได้ช่วยเหลือประเทศต่างๆในการพัฒนาฟาร์ม ก่อสร้างศูนย์สาธิตเทคโนโลยีการเกษตร พัฒนาโครงการชลประทาน อำนวยเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตร อุปกรณ์แปรรูปพืชผลการเกษตร อีกทั้งจัดส่งผู้เชี่ยวชาญจีนไปให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยีการเกษตรด้วย
โครงการช่วยเหลือต่างประเทศในการพัฒนาสาธารณูปโภครวมถึงสาธารณูปโภคทางเทศบาล อาคารก่อสร้างพลเรือน สถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬา ซึ่งมีส่วนช่วยต่อการให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนท้องถิ่นอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมการทำงานของทางการให้ดีขึ้น อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์ของเมืองต่างๆให้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ศูนย์การประชุมระหว่างประเทศของเมียนมาที่ตั้งอยู่ในกรุงเนปยีดอ เมืองหลวงของเมียนมา เป็นโครงการช่วยเหลือต่อเมียนมาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน ศูนย์การประชุมระหว่างประเทศแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จเมื่อค.ศ.2010 กลายเป็นสถานที่สำคัญในการจัดการประชุมต่างๆของเมียนมา
จีนยึดมั่นแนวคิดการพัฒนาแบบสีเขียว โดยช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาอนุรักษ์ระบบนิเวศเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จีนให้ความสำคัญในการสนับสนุนโครงการพลังงานสีเขียว โดยช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาที่เกี่ยวข้องพัฒนาโครงการกำเนิดไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ อีกทั้งเปิดสอนเทคโนโลยีการใช้ก๊าซชีวภาพและพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น จีนยังได้ดำเนินความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพกับประเทศที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการกลายสภาพเป็นทะเลทราย การอนุรักษ์ทรัพยากรทะเล ป่าไม้ และน้ำ รวมทั้งการคุ้มครองสัตว์ป่า เป็นต้น
นอกจากนี้ จีนยังดำเนินการช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลด้วย ซึ่งรวมถึง “ปฏิบัติการการเดินทางเพื่อแสงสว่าง” และ “ปฏิบัติการการเดินทางด้วยหัวใจเปี่ยมรัก” โดยช่วยรักษาผู้ป่วยโรคตาหรือโรคหัวใจแต่กำเนิดในประเทศกำลังพัฒนา อนึ่ง ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา จีนได้ใช้ “ปฏิบัติการการเดินทางเพื่อแสงสว่าง” ในประเทศแอฟริกาและประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนกว่า 30 ประเทศ โดยช่วยเหลือผู้ป่วยโรคตาจำนวนกว่าหมื่นคนให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แพทย์หลิว ฟาง จากแผนกกุมารเวชโรงพยาบาลหวาซีเหมยซาน มหาวิทยาลัยมณฑลเสฉวน ในฐานะเป็นสมาชิกทีมรักษาพยาบาลเพื่อช่วยเหลือประเทศแอฟริกาชุดที่ 17 ของมณฑลเสฉวน ได้เสร็จสิ้นงานรักษาพยาบาลช่วยเหลือประเทศสาธารณรัฐกินีบิสเซาที่เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง
ช่วงทำงานในประเทศกินีบิสเซา แพทย์หลิว ฟาง ได้รักษาผู้ป่วยเด็กนอกโรงพยาบาลจำนวนกว่า 4,500 คน และผู้ป่วยเด็กภายในจำนวนกว่า 300 คน นอกจากนี้ แพทย์หลิว ฟาง ยังใช้วันหยุดไปช่วยรักษาผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล และให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลแก่ชาวบ้านท้องถิ่นอีกด้วย ได้ช่วยกระชับมิตรไมตรีระหว่างประชาชนจีนกับประชาชนแอฟริกาอย่างดี
การให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศถือเป็นปฏิบัติการที่เกื้อกูลกันและกัน เพราะพร้อมกันนี้ จีนก็ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆเช่นกัน ยกตัวอย่าง เมื่อต้นปี 2020 เพื่อสนับสนุนจีนต่อต้านโควิด-19 นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถานระบุว่า ปากีสถานยินดีส่งสิ่งของด้านการรักษาพยาบาลจากในโกดังต่างๆทั่วประเทศไปช่วยเหลือจีน
ขณะพิจารณาถึงสิทธิผลประโยชน์ของประเทศตน ก็ยังพิจารณาถึงความต้องการที่สมเหตุสมผลของประเทศอื่น ขณะทำการพัฒนาประเทศตน ก็ยังส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของประเทศอื่นๆ นี่เป็นจิตวิญญาณของความเป็นประชาคมร่วมอนาคต ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศของจีน ถือเป็นภาคปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน (Yim/Zhou)