เดือนสิงหาคมปีนี้ ทหารต่างประเทศที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำถูกโจมตีด้วยระเบิดที่สนามบินนานาชาติคาบูล แล้วกราดยิงชาวบ้านอัฟกานิสถานอย่างพร่ำเพรื่ออเพื่อแก้แค้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทหารคนใดถูกลงโทษ ผู้คนจึงเกิดคำถามว่า เหตุใดนักการเมืองสหรัฐฯจึงไม่กล้าให้ญาติพี่น้องของผู้ประสบเคราะห์ร้ายชาวอัฟกานิสถานไปออกเสียงที่ “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย”

รายชื่อผู้เข้าร่วมการประชุมที่สหรัฐฯประกาศนั้น เปิดโปงให้เห็นถึงธาตุแท้คือ อัฟกานิสถานซึ่งเป็นประเทศที่ถูกสหรัฐฯบีบบังคับให้ดำเนินการ“ปรับปรุงแบบประชาธิปไตย” แต่ถูกทอดทิ้งในท้ายที่สุดนั้น ไม่ได้อยู่ในรายชื่อดังกล่าว นี่เป็นเรื่องน่าขันมาก และทำให้ชาวโลกเห็นชัดว่า การที่สหรัฐฯเผยแพร่ “ประชาธิปไตยต่อต่างประเทศ” นั้น แท้ที่จริงเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อการแทรกแซงทางทหาร ผู้ร่วมประชุมที่รับเชิญในครั้งนี้ เป็นเพียงตัวประกอบของละครตลกที่มีจุดมุ่งหมาย “จับกลุ่มแบ่งแยกด้วยข้ออ้างประชาธิปไตย”

ถ้าหากสหรัฐฯจะคุยเรื่องประชาธิปไตยและเรื่องสิทธิมนุษยชนจริง ก็น่าจะชวนญาติพี่น้องของผู้ประสบเคราะห์ร้ายของอัฟกานิสถานไปร่วมในการประชุมด้วย เพื่อให้ชาวโลกเห็นชัดว่า “การปรับปรุงแบบประชาธิปไตย” ที่ทำโดยสหรัฐฯนั้น นำอะไรมาให้กับอัฟกานิสถาน เหมือนดั่งที่นักวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งได้กล่าวต่อสหรัฐถึงเรื่องนี้ว่า “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตยของคุณน่าจะชวนประชาชนอัฟกานิสถานเข้าร่วม คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาเลือดเนื้อและความมืดมนในอนาคตของเราเป็นของขวัญในการฉลองประชาธิปไตย” 

สหรัฐฯจะเป็นผู้จัด “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย” ในสัปดาห์หน้า แต่การประชุมครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับประชาธิปไตยใดๆ ข้อเท็จจริงคือ สหรัฐฯกำหนดมาตรฐานเอง เพื่อจับกลุ่มแบ่งแยกสร้างความเป็นปรปักษ์ ทั้งนี้ เป็นการบิดเบือนและใส่ร้ายประชาธิปไตย

การประชุมสุดยอดดังกล่าวจะไม่ทำให้วอชิงตันกลายเป็นแหล่งประชาธิปไตย นักการเมืองสหรัฐฯไม่กล้าเชิญญาติพี่น้องผู้ประสบเคราะห์ร้ายของอัฟกานิสถานไปที่จัดการประชุม เพียงแค่เรื่องนี้ก็ทำให้ชาวโลกเห็นถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้เล่นและทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดเจน

(Yim/Lin/Cui)