ในบรรดารูปถ่ายครอบครัวของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เป็นจำนวนไม่มากที่มีการเปิดเผยนั้น มีอยู่ 2 รูปที่ได้บันทึกความรักระหว่างนายสี จิ้นผิงกับบิดามารดา รูปหนึ่งเป็นภาพที่นายสี จิ้นผิงกับครอบครัวได้เข็นรถเข็นให้บิดา อีกรูปหนึ่งเป็นภาพที่นายสี จิ้นผิงจูงมือคุณแม่ที่มีผมสีขาวเดินเล่น จากครอบครัวเล็กมาเป็นครอบครัวใหญ่ จากบิดามารดามาเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ทั่วประเทศ ในขณะที่ทุกวันนี้สังคมจีนต้องเผชิญหน้ากับปัญหาผู้สูงอายุมากขึ้นนั้น ทำอย่างไรจึงทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่ทุกคนได้ใช้ชีวิตยามชราอย่างมีความสุข เป็นประเด็นที่นายสี จิ้นผิงให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อประชากรจีนมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้น เป็นปัญหาสังคมสำคัญที่ประเทศจีนได้เผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้ ตามการคาดการณ์ ก่อนและหลังปี 2050 สัดส่วนผู้สูงอายุในจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 487 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.9 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ตั้งแต่นายสี จิ้นผิงเข้าดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อปี 2012 เป็นต้นมา ท่ามกลางหมายกำหนดการตรวจเยี่ยมดูงานภายในประเทศที่ยุ่งมาก นายสี จิ้นผิงได้แบ่งเวลาเดินทางไปสถานสงเคราะห์คนชราเป็นการเฉพาะบ่อยครั้งด้วย เพื่อศึกษาถึงแนวทางการพัฒนางานด้านการสงเคราะห์คนชราจีน
นครเซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองใหญ่ที่เข้าสู่สังคมชราภาพเป็นอับดับแรกๆในจีน ในนครเซี่ยงไฮ้ สัดส่วนผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีของเขตหงโข่วสูงถึงร้อยละ 40 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2018 นายสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังถนนเจียซิงเขตหงโข่วของนครเซี่ยงไฮ้เป็นที่แรก เข้าเยี่ยมศูนย์ดูแลผู้สูงอายุตอนกลางวัน นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า ปัญหาผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้ความสำคัญเป็นที่สุด ปัจจุบันประเทศเราได้เข้าสู่สังคมที่มีผู้สูงอายุมากแล้ว การที่ประชาชนจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้นั้น เรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือผู้สูงอายุมีความสุขดีหรือไม่ เมื่อมีอายุมากแล้วมีการช่วยเหลือดูแลอย่างไร สุขภาพของผู้สูงอายุเป็นอย่างไรบ้าง ฉะนั้น งานที่กำลังทำอยู่นี้มีความหมายอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าเห็นว่าผู้สูงอายุที่นี่ต่างมีความเบิกบานดี ขอให้ทุกท่านมีความสุขทุกวัน มีความสุขตลอดไป
ทำอย่างไรจึงดำเนินนโยบายสงเคราะห์คนชราให้มีความเป็นรูปธรรมและอำนวยประโยชน์แก่คนชรามากยิ่งขึ้นนั้น เป็นปัญหาที่ผู้นำสูงสุดของจีนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเสมอ ปัจจุบัน เขตหงโข่วได้ประกาศแผนดำเนินงานระยะ 3 ปีในการให้บริการสงเคราะห์คนชรา คาดว่าเมื่อถึงปลายปี 2021 สถานสงเคราะห์คนชราตอนกลางวันจะเพิ่มขึ้นเป็น 60 แห่ง ศูนย์ทำอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 แห่ง ทีมผู้ดูแลจะเพิ่มขึ้นเป็น 500 คน
ไม่เพียงแต่ในเมืองใหญ่ทางภาคตะวันออกจีนเท่านั้น ในมณฑลและเมืองทางภาคตะวันตกจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานสงเคราะห์คนชราไม่แพ้กัน โดยเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2013 นายสี จิ้นผิงได้ไปเยี่ยมดูงานที่ร้านอาหารสงเคราะห์คนชราเขตเฉิงกวนเมืองหลานโจว สอบถามทุกข์สุขพร้อมเสิร์ฟกับข้าวร้อนๆถึงมือผู้ชราอีกด้วย
(Yim/zheng)