วันที่ 5 มีนาคมที่กรุงปักกิ่ง มีการจัดพิธีเปิดประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 2 บ่ายวันเดียวกัน นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางมาเยี่ยมคณะสมาชิกสภาฯ จากมองโกเลียใน เพื่อร่วมกันพิจารณารายงานการทำงานของรัฐบาล ระหว่างการนี้ “การพัฒนาแบบสีเขียว” คือประเด็นสำคัญที่สุดของการพูดคุยระหว่างนายสี จิ้นผิง กับบรรดาสมาชิกสภาฯ โดยเห็นว่า ระหว่างกระบวนการที่เศรษฐกิจจีนเปลี่ยนจากการเติบโตที่รวดเร็ว ไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงนั้น การดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นขั้นตอนที่สำคัญ
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า เราควรกัดฟันข้ามผ่านด่านนี้ ยืนหยัดการเสริมการสร้างสรรค์ระบบนิเวศ ไม่ควรมีความคิดที่เอาสิ่งแวดล้อมมาแลกกับการพัฒนาของเศรษฐกิจ
มองโกเลียในอยู่ชายแดนภาคเหนือของจีน เป็นเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยแห่งแรกของจีน มี 55 ชนเผ่าอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้
นายสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลท้องถิ่นของมองโกเลียในควรพยายามวางแผนยุทธศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ของมองโกเลียใน ที่สามารถอนุรักษ์ระบบนิเวศในขณะที่พัฒนาเศรษฐกิจไปพร้อมกัน การรักษาทุ่งหญ้าและป่าไม้ เป็นหน้าที่สำคัญอันดับแรกของของการอนุรักษ์ระบบนิเวศของมองโกเลียใน นอกจากนั้น ต้องแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนท้องถิ่นให้ความสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับนโยบายด้านการปรัปปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
นายสี จิ้นผิงยังแสดงความสนใจต่อรายละเอียดด้านการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมองโกเลียในให้ดีขึ้น โดยถามถึงปัญหาต่างๆ เช่น รูปแบบการเลี้ยงสัตว์ในหมู่บ้าน รายได้ของชาวนา และการปรับปรุงห้องน้ำในชนบท เป็นต้น
นายอวี๋ ลี่ซิน เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาประจำเมืองฮูหลุนเป้ยเอ กล่าวว่า เนื่องจากโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ทำให้บรรดาผู้มีอาชีพตัดไม้จำนวน 26,300 คน ต้องเปลี่ยนงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาป่าไม้ นายสี จิ้นผิง จึงรีบถามว่า แล้วการใช้ชีวิตของคนเหล่านี้เป็นอย่างไร
นายอู๋ หยูนโป สมาชิกสภาฯ จากมองโกเลียในกล่าวว่า เขาได้จัดสหกรณ์เลี้ยงวัวในท้องถิ่น นำครอบครัวที่ยากจนมาเข้าร่วมและการแปรรูปอาหารชนิดต่างๆ ทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากความยากจน เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง ทั้งยังตอบปัญหาและแสดงท่าทีสนับสนุนสหกรณ์ดังกล่าว
(Bo/lin/cici)