จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก สมาคมรถยนต์ของจีนประกาศว่า เมื่อปี 1991 ปริมาณการขายรถยนต์ของจีนยังไม่ถึง 1 ล้านคัน ถึงปี 2017 ถึง 28.8 ล้านคัน ในช่วง 26 ปีเพิ่มขึ้นประมาณ 29 เท่า เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา การขายรถยนต์ (รถใหม่)ของจีนมีประมาณ 27.8 ล้านคัน แม้น้อยกว่าปี 2017 ประมาร 1 ล้านคัน แต่ยังคงเป็นประมาณ 30% ของการขายรถยนต์ทั่วโลกซึ่งมีประมาณ 95 ล้านคัน หมายถึงในการปริโภครถใหม่ของทั่วโลกทุก 3 คัน ก็มี 1 คันที่ซื้อจากผู้ปริโภคชาวจีน ปริมาณการขายรถของจีนในรอบปี 2018 คิดเป็น 1.6 เท่าของสหรัฐฯ 1.7 เท่าของสหภาพยุโรปและ 5.5 เท่าของญี่ปุ่น จัดอยู่อันดับ 1 ของโลกต่อเนื่องกันมา 9 ปีแล้ว
ในผู้ปริโภคที่ซื้อรถใหม่นั้น 26% เป็นรุ่น “หลัง90” คือเกิดขึ้นหลังปี 1990 พวกเขาสนใจสีและรูปร่างของตัวรถ ไม่อยากเหมือนคนอื่น และชอบรองสิ่งของใหม่ๆ มีความสนใจ ความอยากและความต้องการต่อ multimedia ที่ติดตั้งในรถ เช่นการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับระบบรถยนต์เข้าด้วยกัน
ในด้านการขายรถ ชาวจีนรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจมากขึ้นต่อการซื้อรถออนไลน์ การสั่งซื้อผ่าน APPของวิสาหกิจรถ แล้วทางวิสาหกิจจะจัดพนักงานส่งรถถึงบ้าน หรือให้ลูกค้าไปรับรถในร้านโดยตรง เป็นรูปแบบการขายใหม่ นอกจากวิสาหกิจแล้ว ร้านค้ารถยนต์ออนไลน์ก็เป็นส่วนสำคัญของตลาดรถยนต์ด้วย ปัจจุบัน อาลีปาปาร่วมมือกับบริษัทขายรถยนต์ที่ร่วมมือกับอาลีปาปาถึงประมาณ 20,000 แห่ง และโรงงานผลิตรถยนต์หลายสิบแห่ง ได้ติดตั้งเครื่องขายรถยนต์โดยอัตโนมัติในเมืองกว่างโจว หนานจิงและนครเซี่ยงไฮ้ ลูกค้าเพียงจองรถออนไลน์ ก็สามารถรองขับรถที่ตนเองสนใจได้ เมื่อปี 2018 จากวันที่ 20 ตุลาคมจนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน ก็ได้ขายรถออนไลน์มากกว่า 1 แสนคันทีเดียว
ปี 2019 อัตราการเติบของ GDP คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 6.4% ในการสถิติของ GDP อุตสาหกรรมรถยนต์มีมูลค่าจัดอยู่อันดับที่ 2 (อันดับแรกคืออุตสาหกรรมอิเล็กตรอนิกส์) เป็นประมาณ 12% ใน 5-10 ข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ อุตสาหกรรมรถยนต์อัจฉริยะและอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์อัจฉริยะ คาดว่าจะถึง 15% พร้อมกันนี้ ยังจะนำและขับเคลื่อนการพัฒนาของแขนงงานที่เกี่ยวข้องถึงประมาณ 100 แขนงงาน ดังนั้น