เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศจะเพิ่มภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้าจากจีน ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อจำนวน 200,000 ล้านเหรีญสหรัฐฯ จาก 10% ขึ้นมาเป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม มาตรการดังกล่าวของสหรัฐ ทำให้เศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีข้อขัดแย้งมากขึ้น และฝ่าฝืนความรับรู้ร่วมกันที่ว่าสองประเทศจะแก้ไขปัญหาด้วยการหารือเจรจา ทำลายผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่สอดคล้องกับความปรารถนาของประชาคมโลก เพื่อพิทักษ์กลไกการค้าแบบพหุภาคี พิทักษ์สิทธิอันชอบด้วยกฎหมาย ทำให้จีนจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเพิ่มภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าบางส่วนของสหรัฐฯ
ตามกฎหมายการค้าต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน กฎข้อบังคับว่าด้วยภาษีศุลกากรการนำเข้าส่งออกแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และหลักการพื้นฐานของกฎหมายสากล หลังได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีจีนแล้ว คณะกรรมการภาษีศุลกากร และคณะรัฐมนตรีตกลงให้ตั้งแต่เวลา 0:00 ของวันที่ 1 มิถุนายน ปี 2019 จีนจะเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐ บางประเภทในบัญชีรายชื่อ คิดเป็นมูลค่า 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ได้เก็บภาษีศุลากรเพิ่มแล้วให้เป็นอัตรา 25% 20% หรือ 10% ส่วนสินค้าที่เก็บภาษีศุลกากร 5% นั้น ยังคงอัตราเดิม
จีนปรับมาตรการภาษีศุลกากรในครั้งนี้เป็นการตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะกลับสู่ทางเจรจาที่ถูกต้อง ใช้ความพยายามร่วมกับจีน ปฏิบัติไปในทางทิศเดียวกัน บรรลุข้อตกลงที่อำนวยประโยชน์แก่กัน บนพื้นฐานเคารพซึ่งกันและกัน
Bo/Ping/Cai