“งานบ้าน”ควรให้เด็กรู้จักทำหรือไม่ (2)

2019-12-05 13:32:37 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_20191205(1)_副本

หลังจากคุณผู้ฟังรู้ถึงความสำคัญของการให้เด็กทำงานบ้าน ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนมีปัญหาว่า ลูกของฉันไม่ชอบทำงานบ้าน ฉันจะทำอย่างไรดี ใช่ค่ะ การชี้นำชักชวนเด็กให้ชอบทำงานบ้านเป็นศาสตร์สำคัญ

ต่อไปเรามาดูกันว่า ควรชี้นำชักชวนลูกอย่างไรเพื่อให้ชอบทำงานบ้าน

ข้อแรก) ควรให้ลูกรู้ว่า การทำงานบ้านไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียวเท่านั้น การทำงานบ้านเป็นหน้าที่ร่วมกันของสมาชิกครอบครัวทุกคน ซึ่งสมาชิกทุกคนในครอบครัวควรใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถของตัวเองเพื่อร่วมกันแบ่งปันการทำงานบ้าน การทำงานบ้านก็เพื่อให้เด็กตระหนักว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบ อย่างเช่น คุณพ่อหรือคุณแม่ทำอาหารเหนื่อยมาก ลูกสามารถช่วยเก็บชาม

ข้อที่ 2) เคารพลูก ให้ลูกมีสิทธิ์เลือก หากลูกไม่ชอบทำงานบ้านจริงๆ อย่าบังคับเขา คุณพ่อคุณแม่สามารถเชิญเด็กเปิดประชุมครอบครัว เพื่อกำหนดรายการของงานบ้านอย่างชัดแจ้ง แล้วให้ลูกเลือกหนึ่งหรือสองรายการ

ข้อที่ 3) กำหนดการทำงานบ้านอย่างเป็นรูปธรรม คำสั่งที่คลุมเครือ เช่น “ทำให้สะอาด” จะทำให้เด็กสับสน คุณพ่อคุณแม่ควรแบ่งงานออกเป็นขั้นตอนที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ลูกเข้าใจความต้องการที่เป็นรูปธรรมของผู้ปกครอง ตัวอย่างเช่น เราทำความสะอาดของเล่นกันก่อนแล้วกวาดพื้น

图片默认标题_fororder_20191205(2)_副本

ข้อที่ 4) คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความอดทน รู้จักชื่นชมพูดให้กำลังใจกับลูกมากๆ เด็กอาจจะทำงานบ้านได้ไม่เรียบร้อยในตอนเริ่มต้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเรียกร้องมากเกินไป ควรให้กำลังใจกับลูก เพื่อให้เขามีแรงจูงใจมากขึ้นในการทำงานบ้าน ซึ่งคำให้กำลังใจไม่เพียงแค่พูดชมว่า ลูกเก่งมาก ควรชื่นชมลูกว่าทำอะไรได่ดร ตัวอย่างเช่น ชื่นชมลูกว่า ลูกทำความสะอาดโต๊ะได้สะอาดสะอ้านมาก

ข้อที่ 5) แสดงท่าทีแข็งขันเป็นตัวอย่างให้ลูก หากคุณพ่อคุณแม่มักจะบ่นว่า การทำงานบ้านเป็นเรื่องที่สกปรกและเหนื่อยต่อหน้าเด็ก เด็กย่อมจะไม่อยากทำงานบ้าน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรถ่ายทอดอารมณ์เชิงบวกกับลูก ก็จะมีผลต่อลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคุณพ่อ หากมักจะหลีกเลี่ยงไม่ทำงานบ้าน ก็จะนำผลกระทบเชิงลบต่อเด็ก ดังนั้น คุณพ่อควรจะพาลูกทำงานบ้านด้วยกัน แล้วบอกลูกว่าการทำงานบ้านก็เป็นการออกกำลังกาย

ข้อที่ 6) สร้างความท้าท้ายให้กับลูก หากลูกทำสิ่งที่ซ้ำๆ ก็จะรู้สึกเบื่อไม่มีความสนใจ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรจะลองให้หน้าที่ใหม่หรือข้อเรียกร้องที่สูงขึ้นกับลูก ลูกจะรู้สึกสดชื่นสนุกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ไม่กลัวการท้าทายและความล้มเหลว ตัวอย่างเช่น วันนี้ คุณแม่หรือคุณพ่อชวนลูกมาเรียนรู้วิธีห่อเกี๊ยว

ข้อที่ 7) คุณแม่ต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอให้เหมาะสม จีนมีสำนวนว่า คุณแม่ที่ขี้เกียจจะมีลูกที่ขยันหมั่นเพียร ดังนั้น หากคุณแม่แสดงความอ่อนแอบ้างเป็นครั้งคราว ขอความช่วยเหลือจากลูกว่า ลูกจะช่วยเหลือคุณแม่หน่อยได้ไหมคะ จะทำให้ลูกรู้สึกมีความมั่นใจและความรับผิดชอบมากขึ้น และกระตือรือร้นที่จะแบ่งเบาภาระของคุณแม่  ตัวอย่างเช่น คุณแม่อาจจะพูดว่า คุณแม่ยุ่งมาก ลูกช่วยฉันเลือกผักได้ไหมคะ

Yim/kt

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

周旭