ขณะที่ทั่วประเทศจีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากรัฐบาลกลางสู่รัฐบาลท้องถิ่น ได้ใช้ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวด พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงและลดการอยู่ในชุมนุมในกรณีที่ไม่จำเป็น นี่เป็นหนึ่งในวิธีการสกัดกั้นไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายที่มีผลดีที่สุดสำหรับการรับมือกับโรคระบาดทุกชนิด
แต่ผลที่ตามมาก็คือในช่วงวันหยุดตรุษจีนปี 2020 ตามสถานที่ที่เคยคึกคักมากในช่วงวันหยุดยาว เช่น ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม กลับเงียบเหงา จึงเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะในแวดวงต่างประเทศ ในความเป็นจริงประเทศจีนตอนนี้ธุรกิจออนไลน์เจริญก้าวหน้าในระดับที่เรียกว่าล้ำสมัย ต่อให้คนทั่วไปไม่ออกจากบ้าน ก็สามารถทำงาน เรียนหนังสือและจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเป็นปกติ ภายใต้สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาด เศรษฐกิจดิจิตอลกำลังกลายเป็นพระเอกคนใหม่ในสังคมจีน
ยกตัวอย่างเช่นครอบครัวของคุณหาน ซึ่งเป็นพลเมืองชาวปักกิ่ง หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ สมาชิกครอบครัวทั้งหมดของเธอล้วนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน คุณหานใช้แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซต่างๆ ซื้อผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ สิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก การตอบสนองความต้องการในทุกด้านที่เกี่ยวกับการครองชีพของสมาชิกในครอบครัว เวลาว่างเธอยังส่อง Moment ของ Wechat เพื่อเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องประดับสวยๆ ที่มีโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย
ขณะที่สามีของคุณหานชอบเล่นเกมส์ออนไลน์ หรือดูละครซีรีย์และภาพยนตร์ผ่านสมาร์ทโฟนฆ่าเวลาในวันที่บริษัทยังไม่ได้สั่งงานมา ส่วนลูกสาวของคุณหานเป็นนักเรียนชั้นประถม เริ่มเคยชินกับการเรียนหนังสือผ่านอินเตอร์เน็ตตามกำหนดทั้งของโรงเรียนและ App ของโรงเรียนพิเศษที่คุณหานเลือกให้ จึงไม่พลาดการเรียนแม้แต่วันเดียว
รูปแบบการใช้ชีวิตของครอบครัวคุณหานภายใต้สถานการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างของครอบครัวชาวจีนทั่วไป และเป็นมุมมองที่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของเศรษฐกิจดิจิตอลของจีนในปัจจุบันข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องแสดงว่า ตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปี 2018 ยอดมูลค่าเศรษฐกิจดิจิตอลของจีนเติบโตจาก 11.2 ล้านล้านหยวนสู่ 31.3 ล้านล้านหยวน โดยครองสัดส่วนของยอดมวลรวมการผลิตภายในประเทศหรือ GDP เพิ่มจากระดับ 20.8% มาเป็น 34.8% ทำให้เศรษฐกิจดิจิตอลของจีนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ภายหลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งบทบาทและคุณค่าของเศรษฐกิจดิจิตอลล้วนมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
เมื่อเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดในครั้งนี้ บรรดาแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซขนาดใหญ่ ต่างอาศัยความได้เปรียบทางห่วงโซ่อุปทานจัดสรรและขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงบทบาทที่แข็งขันในการตอบสนองความต้องการจากผู้บริโภคในนี้
ข้อมูล Big Data จากบริษัท JD แสดงให้เห็นว่า หลังจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ความต้องการของผู้บริโภคต่อสินค้าจำเป็นในชีวิตเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึง ข้าว แป้งสาลี น้ำมันปรุงอาหาร อาหารกึ่งสำเร็จรูป(convenience food) เครื่องปรุงอย่างน้ำส้มสายชุและซีอิ้ว เป็นต้น โดยยอดการจำหน่ายผักสดเพิ่มขึ้น 9 เท่าเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทั้งสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก และไข่ไก่เติบโตราว 7.5 เท่า เฉพาะเวลา 3 วันในเทศกาลตรุษจีน คือตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำจนถึงวันขึ้น 3 ค่ำเดือนอ้าย ยอดการจำหน่ายอาหารแช่แข็ง เช่นเกี๊ยวน้ำและขนมแช่แข็งขยายตัวกว่า 7 เท่า สรุปได้ว่า ผู้บริโภคจีนมีความต้องการมากในการซื้อของออนไลน์ ขณะที่อุปทานสิ่งของที่จำเป็นในตลาดเพียงพอกับความต้องการในภาพรวม
พร้อมกันนั้น ยอดการใช้บริการทางอินเตอร์เน็ตของคนจีน เพื่อคลิกดูคลิปวิดีโอกับโชว์ประเภทถ่ายทอดสด เล่นเกมส์ออนไลน์ รับคอร์สอบรมกับคอร์สเรียนเพิ่มต่างๆ ต่างพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ทำให้ “เศรษฐกิจอยู่บ้าน” พัฒนาเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจุบัน เกมส์ออนไลน์ยอดนิยมที่มีผู้เล่นมากที่สุดในเมืองจีนคือ “Honor of Kings” ในช่วงวันหยุดตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่าจนถึงวันขึ้น 7 ค่ำเดือนอ้าย ยอดผู้เล่นออนไลน์เฉลี่ยต่อวันอยู่ระหว่าง 120 ล้านคน ถึง 150 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรจีน ขณะที่รายได้รวมของเกมส์นี้เฉพาะในวันส่งท้ายปีเก่าวันเดียวก็มากถึงประมาณ 200,000 ล้านหยวน เป็นตัวเลขที่ทำลายสถิติแบบเหลือเชื่อ