การประชุม“สองสภา”ของจีนเริ่มขึ้นแล้ว

2020-05-22 15:04:29 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_1

1. การประชุมสองสภาคืออะไร

การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนและการประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน ถือเป็นการประชุมประจำปีที่สำคัญของจีน เนื่องจากจัดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันจึงมักเรียกว่า การประชุม "สองสภา"

สมาชิกการประชุมชุดหนึ่ง มีวาระ 5 ปี จัดการประชุมเต็มคณะขึ้นปีละ 1 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1959 ดังนั้น การประชุมในปีนี้ จึงเป็นการประชุมสองสภา ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3

เป็นประจำของทุกปี การประชุมสองสภาจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 การประชุมปีนี้จึงถูกเลื่อนมาจัดกลางเดือนพฤษภาคมแทน โดยการประชุมสภาผู้แทนประชาชน ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 22 พฤษภาคม  ส่วนการประชุมสภาปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติจีน ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3  ขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 21 พฤษภาคม

การประชุมสองสภาเป็นโอกาสให้ผู้แทนประชาชนรวบรวมข้อเสนอ ความคิดเห็น หรือ ข้อเรียกร้องของประชาชน เพื่อยื่นต่อคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจีนจะสรุปผลการดำเนินงานในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศแผนการพัฒนาในปีนั้น ๆ

ก่อนจัดการประชุมสองสภาระดับประเทศ จะมีการจัดประชุมสองสภาระดับมณฑลก่อน เพื่อหารือประเด็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจและแก้ปัญหาการพัฒนาในท้องถิ่น

2. การประชุมสองสภาระดับมณฑล

การประชุมสองสภาระดับมณฑลปีนี้ ส่วนใหญ่จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคมตามประเพณีดังเช่นทุกปี แต่ผลกระทบจากโควิด-19  ทำให้การประชุมสองสภาของมณฑลซื่อชวนและมณฑลหยุนนาน ที่เดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ต้องเลื่อนมาจัดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมแทน

ทั้งนี้ การประชุมสภาปรึกษาการเมืองของมณฑลซื่อชวน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 11 พฤษภาคม การประชุมสภาผู้แทนประชาชนของมณฑลซื่อชวน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม ส่วนการประชุมสภาปรึกษาการเมืองของมณฑลหยุนหนัน จัดระหว่างวันที่ 9 - 11 พฤษภาคม และการประชุมสภาผู้แทนประชาชนของมณฑลหยุนหนัน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 - 12 พฤษภาคม โดยทั้งสองมณฑลดังกล่าว ต่างลดระยะเวลาการประชุม พร้อมทั้งยังลดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม และใช้การประชุมร่วมกันในสถานที่เดียวควบคู่ไปกับร่วมประชุมทางไกล

3. การเปลี่ยนแปลงของการประชุมสองสภาระดับชาติปีนี้

วันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายจัง เย่ซ่วย ผู้อำนวยการ คณะกรรมการกิจการทางการทูต แห่งสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน กล่าวว่า ปีนี้ ศูนย์สารนิเทศของที่ประชุมฯ ได้รับการยื่นขอสัมภาษณ์จากผู้สื่อข่าวทั้งจีนและต่างประชาติกว่า 3,000 คน ซึ่งต้องขอบคุณสื่อมวลชนทั้งหลายที่ให้ความสนใจต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังไม่สามารถควบคุมได้ จีนยังมีภาระหน้าที่อันหนักหน่วงในการป้องกันการระบาดซ้ำจากต่างประเทศ ดังนั้น การประชุมสองสภาปีนี้ จึงมีการเปลี่ยนดังต่อไปนี้

1) ลดระยะเวลาการจัดประชุมให้สั้นลง

2) เชิญผู้สื่อข่าวจีนและต่างชาติที่อยู่ในกรุงปักกิ่งเท่านั้นมาทำข่าว และไม่เชิญผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศมายังกรุงปักกิ่ง

3) ลดจำนวนการประชุมแถลงข่าว การประชุมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว การประชุมให้สัมภาษณ์ผู้แทน รวมไปถึงการประชุมให้สัมภาษณ์รัฐมนตรี โดยเปลี่ยนให้เป็นการสัมภาษณ์ทางไกลแทน

นอกจากนี้ นายจัง เย่ซ่วย ยังกล่าวแนะนำอีกว่า ในที่ประชุมเต็มคณะของการประชุมสองสภาจะเชิญนักการทูตประเทศต่าง ๆ  ประจำจีนมาร่วมรับฟังด้วย และจะเชิญผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่งจำนวนหนึ่งมาทำข่าว แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ประชุมปีนี้จึงไม่จัดการสัมภาษณ์ขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก โดยจะให้ผู้แทนแต่ละคณะจัดโฆษกประจำ เพื่อแจ้งข้อมูลสำคัญและตอบคำถามของผู้สื่อข่าวอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งจัดผู้ดูแลเกี่ยวกับข้อมูลประจำคณะ รับผิดชอบติดต่อประสานงานในเรื่องการขอสัมภาษณ์ โดยที่ประชุมได้จัดห้องสัมภาษณ์ทางไกลในที่พักของผู้แทน เพื่อให้ความสะดวกกับทั้งผู้สื่อข่าวและตัวผู้แทนเอง

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์ศูนย์สารนิเทศของการประชุมสองสภา ยังประกาศข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงทีด้วย

5. ประเด็นร้อนของการประชุมสองสภาปีนี้

1) การที่จีนเปิดการประชุมสองสภานั้นแสดงให้เห็นว่า การป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น เศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของประชาชนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

2) ที่ประชุมสองสภาปีนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการพัฒนาของจีนหลังฟื้นการผลิตและการทำงาน แม้การระบาดของโควิด-19 ทำลายจังหวะการพัฒนาเศรษฐกิจโลก แต่สำหรับจีนแล้ว ครึ่งปีแรกนี้ จีนได้เน้นการป้องกันการแพร่ระบาด โดยผลงานการต้านโควิด-19 ของจีน เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับประเทศต่าง ๆ ดังนั้น แนวคิดและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนในขั้นต่อไป ย่อมจะเป็นจุดสนใจของทั่วประเทศและทั่วโลก

3) จีนตั้งเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจปีนี้อย่างไร เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับการจับตามอง ก่อนหน้านี้ ตามสภาพการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะปรับตัวลดลง 3% ส่วนเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 1.2% ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่คาดว่าจะมีการเติบโต สำหรับปี 2021 IMF คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโต 9.2% ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า IMF เชื่อว่า ผลกระทบจากโควิด-19  ในปีนี้จะน้อยลง และเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า

4) ในเรื่องการขจัดความยากจน จีนมีเป้าหมายของแผนการพัฒนาว่า จะสร้างประเทศมั่งคั่งในปี 2020 แต่ปัจจุบัน ทั่วประเทศจีนมีอำเภอยากจนเหลืออยู่ 52 แห่ง หมู่บ้านยากจน 2,707 แห่ง และประชาชนยากจน 5.51 ล้านคน การระบาดของโควิด-19 กระทบถึงการทำงานของเกษตรกร การจำหน่ายผลิตผลการเกษตร รวมไปถึงกระบวนการขจัดความยากจนด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรม เหลือเวลาอีกครึ่งปี จีนจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้หรือไม่นั้น เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญในการประชุมสองสภาปีนี้

5) ปีนี้ ยังเป็นปีสุดท้ายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี ชุดที่ 13 ด้วย ดังนั้น ปัญหาของประชาชนด้านต่าง ๆ เช่น ที่พักอาศัย ชีวิตในวัยเกษียณ การศึกษา และการรักษาพยาบาล ต่างเป็นประเด็นที่ประชาชนจีนทั่วไปต่างสนใจติดตามกัน

หากอยากรู้คำตอบของประเด็นดังกล่าว อย่าลืมติดตามรายการและเว็บไซต์ของซีอาร์ไอกันต่อ

Tim/Ldan

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

张丹