เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาที่พิพิธภัณฑ์และหอสมุดริชาร์ด นิกสัน ใส่ร้ายป้ายสีบริษัท “หวาเหวย” ของจีนว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เขายังกล่าวอย่างไร้เหตุผลว่า วิสาหกิจจีนไม่แสวงหาผลกำไร ก่อนหน้านั้น นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ และนายวิลเลียม บาร์ รมว.กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ใส่ร้ายวิสาหกิจจีนลักษณะนี้เช่นกัน ทำให้ผู้คนเห็นว่า สหรัฐฯ วางอำนาจบาตรใหญ่ทำลายระเบียบของตลาดและยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้
ทำไมพวกนายปอมเปโอใช้ “ความมั่นคงแห่งชาติ” หลอกหลวงผู้อื่นไม่ได้ เป็นเพราะพวกเขาไม่มีหลักฐาน ตัวอย่างเช่น บริษัทเทคโนโลยีหวาเหวยที่ถูกตรวจสอบมากที่สุด ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในช่วง 30 ปีมานี้ หวาเหวยสร้างเครือข่ายกว่า 1,500 แห่งใน 170 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ให้บริการแก่วิสาหกิจ 228 แห่ง จาก 500 อันดับแรกทั่วโลก และให้บริการประชากรกว่า 2,000 ล้านคน แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน หรือ วิกิลีกส์ เลยสักครั้งเดียว
นอกจากนี้ ยังไม่มีประเทศใดสามารถแสดงหลักฐานว่าสินค้าหวาเหวยมีประตูหลัง การที่นักการเมืองสหรัฐฯ ไม่นิ่งเฉยต่อการพัฒนาของวิสาหกิจจีน รวบรวมความผิดฐานขโมยทรัพย์สินทางปัญญา คุกคามความมั่นคงแห่งชาติ และใช้อำนาจของประเทศปราบปราม จนบังคับให้มิตรประเทศขับไล่เทคโนโลยีจีน อันเป็นผลมาจากแนวคิดเกมที่มีผลรวมเป็นศูนย์และอคติทางอุดมการณ์ ซึ่งไม่อยากเห็นวิสาหกิจเทคโนโลยีจีนอยู่ในแนวหน้าด้านการสื่อสาร 5G ตลอดจนไม่อยากเห็นวิสาหกิจเหล่านี้เป็นวิสาหกิจจีน ทำให้ชาวโลกตระหนักถึงความขี้ขลาดและโหดเหี้ยมของพวกนายปอมเปโอ พร้อมกับตระหนักถึงความหลอกลวงและการใช้อำนาจบาตรใหญ่
(Tim/Cui/Zhang)