52 อำเภอยากไร้ของจีนทำสงครามขจัดความยากจนอย่างเข้มข้น

2020-09-20 08:30:32 | CMG
Share with:

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เน้นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า การทำให้ประชากรยากจนในชนบทของจีนหลุดพ้นความยากจนทั้งหมดภายในปี ค.ศ. 2020 นั้น เป็นคำมั่นสัญญาอันหนักแน่นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่อประชาชนทั่วประเทศซึ่งจำต้องบรรลุผลตามกำหนดเวลาให้ได้

สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า จนถึงปัจจุบัน จีนยังคงมีอำเภอยากจนรวม 52 แห่ง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี มณฑลเสฉวน ยูนนาน กุยจิ๋ว กานซู่ เขตปกครองตนเองชนเผ่าหุยหนิงเซี่ย และเขตปกครองตนเองชนเผ่าอุยกูร์ซินเจียง พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพความยากจนรุนแรง สภาพธรรมชาติที่ย่ำแย่ สาเหตุของความยากจนที่สลับซับซ้อน และมีต้นทุนในการขจัดความยากจนสูง ถือเป็น “โจทย์หิน” ที่ยังไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่ละท้องถิ่นเคยใช้ความพยายามมาแล้วหลายครั้งก็ตาม

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เพื่อบรรลุเป้าหมายการหลุดพ้นความยากจนทั่วประเทศตามกำหนดเวลา รัฐบาลทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นของจีนต่างออกนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ เช่น

1)เพิ่มหลักประกันด้านงบประมา   ปี 2020 บนพื้นฐานของการจัดสรรงบประมาณขจัดความยากจนโดยเฉพาะในช่วงต้นปี สำนักงานการคลังส่วนกลางยังได้จัดสรรงบพิเศษเพื่อใช้ในการแก้ไขข้อด้อยและจุดอ่อนของพื้นที่ยากจนดังกล่าวเป็นจำนวนเงิน 18,400 ล้านหยวน 

2)เสริมทัพสู้ศึกขจัดความยากจน  ใช้มาตรการพิเศษ “แขวนป้ายชื่อบัญชาการรบ” ใน  1,113 หมู่บ้านยากจนใน 52 อำเภอ โดยแต่ละอำเภอยากจนที่ขึ้นทะเบียนต่างก็มีผู้นำระดับมณฑล 1 คน เป็นผู้กำกับดูแลงานการขจัดความยากจนอย่างใกล้ชิด ส่วนหมู่บ้านยากจนแต่ละแห่งที่ขึ้นทะเบียนต่างก็มีผู้นำระดับอำเภอประจำที่หมู่บ้านเพื่อกำกับดูแลงานการขจัดความยากจนอย่างใกล้ชิด 

3)ระดัมสรรพกำลังจากแวดวงต่าง ๆ ทางสังคม   ระดมพลังทางสังคม 2,008 องค์กรทั้งจากภาคกลางและภาคตะวันออกจับคู่ให้ความช่วยเหลือกับ 1,113 หมู่บ้านยากจน โดยมีการลงทุนในหมู่บ้านไปแล้วคิดเป็นเงิน 314 ล้านหยวน  

4)สร้างและปรับปรุงกลไกตรวจสอบ แจ้งเตือนและให้ความช่วยเหลือ    เพื่อป้องกันการหวนกลับไปยากจน ใช้มาตรการชิงเข้าให้ความช่วยเหลือก่อนเพื่อขจัดความเสี่ยงต่อการกลับมายากจนผ่านการเพิ่มการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจและการประกันการมีงานทำ เป็นต้น  

ปัจจุบัน ในสมรภูมิขจัดความยากจนช่วงโค้งสุดท้ายของจีน เจ้าหน้าที่และมวลชนเล็งแก้ปัญหาที่โดดเด่น หนักหน่วง รวมถึงจุดอ่อนและข้อด้อย ซึ่งกำลังสร้างปาฏิหาริย์แห่งการขจัดความยากจนของมนุษยชาติอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยจิตใจอันฮึกเหิมซึ่งถ้าไม่เผด็จศึกจะไม่ถอยทัพอย่างเด็ดเดี่ยว

แขวนป้ายชื่อบัญชาการรบ สู้ศึกพิเศษด้วยมาตรการพิเศษ

ต้นฤดูใบไม้ร่วง เวลาขับรถที่เชิงเขาลิ่วไผซานจะเห็นภาพคลื่นรวงข้าวสีทองค้อมลงเต็มท้องทุ่งเหลืองอร่ามไปตามกระแสลมพัดไหวสวยงามยิ่งนัก เวลานี้ ซีเจี๋ยซึ่งเป็นอำเภอยากจนที่ยังไม่หลุดพ้นจากความยากจนอำเภอสุดท้ายของเขตหนิงเซี่ยกำลังอยู่ระหว่างการใช้ความพยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนก่อนสิ้นปีนี้

“ปลูก 10 อย่างเก็บไม่ได้ 9 อย่าง แม้นกกระจอกยังกระหายน้ำจนต้องดื่มน้ำมันดีเซล” การขาดแคลนน้ำเป็นอุปสรรคอันดับแรกในการแก้ปัญหาความยากจนของอำเภอซีเจี๋ย ตำบลหงเย่าเคยเป็นพื้นที่ขาดแคลนน้ำมากที่สุดในอำเภอซีเจี๋ย เมื่อหวนนึกถึงอดีต นายหลิ่ว จื้อจุ้น วัย 65 ปี ชาวบ้านบริเวณนี้เล่าให้ฟังด้วยความรู้สึกตื่นเต้นว่า “แต่ละวันต้องรีบไปหาบน้ำจากตาน้ำที่อยู่ไกล 4 - 5 กิโลเมตรตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ถังน้ำที่ตั้งเรียงรายบนพื้นเพื่อเข้าคิวตักน้ำนั้นทอดยาวกว่า 20 เมตร”

ด้วยเหตุนี้ อำเภอซีเจี๋ยจึงถือโครงการยกระดับความปลอดภัยด้านน้ำดื่มเป็นจุดสำคัญของการ “แขวนป้ายชื่อบัญชาการรบ” ในครั้งนี้ โดยเล็งปัญหาสำคัญเป็นเป้าหมาย กำหนดหน้าที่สู้ศึกขจัดความยากจนและปฏิบัติตามนโยบายอย่างจริงจัง สร้างสถานีสูบน้ำ บ่อกักเก็บน้ำ และเปลี่ยนแหล่งที่มาของน้ำ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้ยากจนอย่างใกล้ชิด  ตรวจสอบและแก้ไขจุดอ่อนและข้อด้อย เกลี้ยกล่อมเด็กที่เลิกเรียนหนังสือกลางคันให้กลับเข้าเรียนจำนวน 452 คน ซ่อมแซมบ้านพักที่อยู่ในสภาพอันตรายรวม 1,530 ครัวเรือน ทำให้อัตราการเข้าถึงมาตรฐาน สองไม่ต้องห่วงและสามหลักประกัน” สูงถึง 100% (สองไม่ต้องห่วง หมายถึง ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ส่วนสามหลักประกัน หมายถึง หลักประกันด้านการศึกษาภาคบังคับ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน และความปลอดภัยด้านที่อยู่อาศัย)

52 อำเภอยากไร้ของจีนทำสงครามขจัดความยากจนอย่างเข้มข้น_fororder_1

วันที่ 7 กันยายน ชาวนากำลังเก็บเกี่ยวผักกาดขาวที่ฐานปลูกพืชผักในอำเภอซีเจี๋ย เขตหนิงเซี่ย

อุดช่องโหว่ไม่เผด็จศึกไม่ถอยทัพ

วันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2020 ที่หมู่บ้านอาถู่เลี่ยเอ๋อ อำเภอเจาเจี้ยว  มณฑลเสฉวน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาต้าเหลียงซาน นายโหม่ว เซ่อต๋าถี่ ชาวบ้านที่นั่นพร้อมภรรยาเดินลงจากบันไดโครงเหล็ก 2,556 ขั้น อำลา “หมู่บ้านหน้าผา” ที่อาศัยมาตลอด 5 ชั่วอายุคนเป็นการถาวร

52 อำเภอยากไร้ของจีนทำสงครามขจัดความยากจนอย่างเข้มข้น_fororder_2

นายโหม่ว เซ่อต๋าถี่ พร้อมภรรยาชาวหมู่บ้านอาถู่เลี่ยเอ๋อ อำเภอเจาเจี้ยว มณฑลเสฉวน แบกข้าวของเดินลงจากบันไดโครงเหล็ก

จากการปีนบันไดหวาย ต่อด้วยบันไดโครงเหล็ก สู่การเดินขึ้นบันไดอาคารแล้วต่อลิฟต์... ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านจำนวนกว่า 50,000 คนในอำเภอเจาเจี้ยว บริเวณภูเขาต้าเหลียงซาน ย้ายออกจากภูเขาและเข้ามาอยู่ในบ้านพักที่สร้างขึ้นใหม่

การอพยพประชาชนจากที่อยู่เดิมและจัดสรรบ้านพักใหม่ในต่างถิ่นที่เหมาะแก่การขจัดความยากจนไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหา “สองไม่ต้องห่วงและสามหลักประกัน” ของประชากรยากจนราว 10 ล้านคนทั่วประเทศเท่านั้น หากยังตัดขาด “การสืบทอดความยากจนแบบรุ่นสู่รุ่น” ในขั้นพื้นฐานผ่านการย้ายถิ่นที่อยู่ เปลี่ยนอาชีพใหม่ และแก้ไขต้นตอแห่งความยากจนอีกด้วย

52 อำเภอยากไร้ของจีนทำสงครามขจัดความยากจนอย่างเข้มข้น_fororder_3

รถตู้โดยสารแล่นบนถนนที่เพิ่งสร้างเสร็จในหมู่บ้านอาปู้ลั่วฮา อำเภอปู้ทัว มณฑลเสฉวน (บันทึกด้วยโดรน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน)

หมู่บ้านอาปู้ลั่วฮา ในอำเภอปู้ทัว ตั้งอยู่บริเวณหุบเขาแม่น้ำจินซาเจียง  พื้นที่นี้สามด้านโอบล้อมไปด้วยภูเขา ส่วนอีกด้านหนึ่งติดกับหน้าผา ที่นี่เคยเป็นหมู่บ้านรุ่นสุดท้ายที่ไม่มีทางหลวงเชื่อมถึงของจีน

ปี 2019 ทางหลวงเชื่อมหมู่บ้านอาปู้ลั่วฮาเริ่มการก่อสร้าง เมื่อกางแผนที่ดู  ทางหลวงระยะทาง 3.8 กิโลเมตรสายนี้ถือเป็นสักขีพยานแห่งการปีนข้าม “ภูเขาใหญ่แห่งความยากจน” ของมวลมนุษยชาติ เพราะต้องระดมเฮลิคอปเตอร์ MI-26 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ขนส่งรองรับน้ำหนักมากที่สุดในปัจจุบันของโลกเพื่อลำเลียงอุปกรณ์เครื่องจักรในการก่อสร้าง และมีมูลค่าการก่อสร้างสูงถึง 10 ล้านหยวนต่อ 1 กิโลเมตร

ปัจจุบัน หมู่บ้านเกือบทุกแห่งในพื้นที่ยากจนของจีนมีทางหลวงเชื่อมถึงหมดแล้ว ส่วนในเขตภูเขาที่ห่างไกลทางภาคตะวันตกของจีนได้ดำเนินโครงการ  “เปลี่ยนลวดสลิงเป็นสะพาน” จำนวน 309 แห่ง ช่วยให้ประชากรในท้องถิ่นอำลา  “ยุคลวดสลิง” ได้ในที่สุด

ป้องกันการกลับคืนสู่ความยากจน

ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หมู่บ้านจางเถี่ย ในอำเภอหลี่เซี่ยน มณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดภัยดินโคลนถล่ม พืชสมุนไพรจีนพื้นที่ 430 โหม่วหรือราว 180 ไร่ได้รับความเสียหาย ในจำนวนนี้ 100 โหม่วเสียหายทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านจำนวนหนึ่งเผชิญความเสี่ยงที่จะกลายเป็นคนจนอีกครั้ง

หมู่บ้านจางเถี่ยถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างการกลับคืนสู่ภาวะยากจนเพราะภัยธรรมชาติ  ภายในเวลาสามปีเกิดภัยพิบัติสองปีอัตราการเกิดภัยธรรมชาติสูงถึง 68.5% ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านยากจนที่สุดของอำเภอหลี่เซี่ยน

ทำเลที่ตั้งเป็นหุบเขา สภาพภูมิประเทศที่พิเศษ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อย  พื้นฐานอุตสาหกรรมที่เปราะบาง และการรักษาผลงานการขจัดความยากจนประสบความยากลำบาก เป็นปัญหาสำคัญอันหนักหน่วงในพื้นที่ที่ถูกประกาศใช้มาตรการ “แขวนป้ายชื่อบัญชาการรบ” หลายแห่งของจีน

การพึ่งพากลไกตลาดเป็นหนึ่งในมาตรการที่ถูกนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างผลสำเร็จของการขจัดความยากจน “ปัจจุบัน กำลังดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ชาวบ้านที่ประสบภัยจะได้เงินชดเชยในเร็ววันนี้” นายหยาง ขั้ว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้านจางเถี่ย  กล่าวแนะนำว่า เวลานี้ การประกันภัยการเกษตรครอบคลุมครอบครัวยากจนในหมู่บ้านจางเถี่ยทั้งหมดแล้ว

ในปีนี้ซึ่งเป็นปีแห่งการบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนทั่วประเทศ  การระบาดของโควิด-19 ได้เพิ่ม “โจทย์ใหม่” ต่อการประกันให้ชาวบ้านมีงานทำ  ท้องที่ต่าง ๆ ของจีนใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อประกันให้ชาวบ้านที่หลุดพ้นจากความยากจนแล้วก่อนหน้านี้สามารถมีอาชีพที่มั่นคงและไม่กลับไปตกอยู่ในสภาวะยากจนอีก เช่น ประสานโรงงานที่มีหน้าที่ช่วยขจัดความยากจนและธุรกิจในท้องถิ่นให้จ้างชาวบ้านเข้าทำงาน รวมไปถึงจัดส่งชาวบ้านไปทำงานในต่างถิ่นและจัดสรรตำแหน่งงานเชิงสังคมสงเคราะห์ให้แก่ชาวบ้าน เป็นต้น

52 อำเภอยากไร้ของจีนทำสงครามขจัดความยากจนอย่างเข้มข้น_fororder_4

ที่สนามบินนานาชาติฉางเล่อฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน อาสาสมัครฝูโจวกำลังต้อนรับแรงงานจากเขตหนิงเซี่ย

จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม ปี 2020 ชาวบ้านที่ออกไปทำงานต่างถิ่นจาก 52  อำเภอยากจนที่ขึ้นทะเบียนดังกล่าว มีจำนวนราว 2.87 ล้านคน หรือคิดเป็น  112.94% ของปีที่แล้ว

เดือนกันยายนนี้ จีนเริ่มจัดกิจกรรม “เดือนแห่งการใช้จ่ายเพื่อช่วยขจัดความยากจน” เป็นครั้งแรก เพื่อระดมกำลังจากแวดวงต่าง ๆ ทางสังคมให้ช่วยเหลือพื้นที่ยากจน

ลำธารสายเล็ก ๆ รวมกันเป็นทะเลได้ ปัจจุบัน ทั่วทั้งประเทศจีนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช่วยขจัดความยากจนคิดเป็นเงินราว 1 แสน 3 หมื่นล้านหยวน ถือเป็นการเพิ่มพลังขับเคลื่อนแก่การพัฒนาธุรกิจขจัดความยากจนในพื้นที่ยากไร้เป็นอย่างมาก

Tim/Lu

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

陆永江