ปธน.จีนรณรงค์กระแสนิยม“ทานหมดจาน”

2020-10-11 14:14:31 | CMG
Share with:

ปี 2020 เป็นปีที่มีวันไหว้พระจันทร์ตรงกับวันชาติจีน ดังนั้น จึงมีบรรยากาศการฉลองเทศกาลมากเป็นพิเศษ ภาวะปกติใหม่ในการป้องกันและควบคุมโควิค-19 ทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงวันชาติที่ผ่านมา การบริโภคในภาคบริการ เช่น ธุรกิจจัดเลี้ยง และการท่องเที่ยวแบบพักผ่อน เป็นต้น เติบโตอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารเก่าแก่รวมถึงแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงบนอินเทอร์เน็ตบางแห่งของมณฑลเสฉวนมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ  10 - 20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการร้านอาหารและเครื่องดื่มในเมืองกว่างโจวมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทเหม่ยถวนเผยแพร่รายงานสถิติการบริโภคช่วงหยุดยาววันชาติ ปี 2020 ระบุว่า ในช่วง 4 วันแรกของสัปดาห์ทองวันชาติปีนี้ การบริโภคภาคกลางคืนเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยการรับประทานอาหารยามค่ำคืนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว

สิ่งที่น่าพอใจคือ ช่วงหยุดยาววันชาติและเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ปีนี้  เพื่อป้องกันการสิ้นเปลืองอาหารอย่างเด็ดขาด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนได้เสริมสร้างการตรวจสอบและกำกับดูแลอย่างเข้มงวด โดยภาพการกินทิ้งขว้างจากเงินงบประมาณของรัฐจะไม่ปรากฏให้เห็นอีกต่อไป นอกจากนี้ ชาวจีน  ร้านอาหาร วิสาหกิจ หน่วยงาน และสถาบันต่าง ๆ รวมไปถึงโรงอาหารของโรงเรียน ต่างก็ยึดถือแนวคิดการประหยัดและหยุดสิ้นเปลืองอาหาร ทำให้ปฏิบัติการ “ทานหมดจาน” ที่รับประทานอาหารอย่างมีอารยะ ใช้ตะเกียบกลางและช้อนกลาง  ตลอดจนการไม่มีอาหารเหลือทิ้ง กำลังกลายเป็นกระแสนิยมใหม่ของการบริโภคอาหารของจีน

ปธน.จีนรณรงค์กระแสนิยม “ทานหมดจาน”_fororder_光盘行动图片1

วันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังชั้น 4 โซนร้านอาหารของห้างสรรพสินค้าส้วนอิง เมืองชิงหย่วน มณฑลกว่างตง โดยสังเกตเห็นว่า บนโต๊ะอาหารและเคาน์เตอร์ชำระเงินต่างมีป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เช่น การทานอาหารอย่างประหยัด ไม่ทานอาหารเหลือทิ้ง ทานหมดจาน และหยุดสิ้นเปลืองอาหาร เช่นเดียวกัน ที่ร้านอาหารทะเลขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เมื่อลูกค้าทานไม่หมดก็จะนำอาหารส่วนที่เหลือใส่กล่องกลับไปด้วย นายเฉิน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การนำอาหารใส่กล่องกลับไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การทานอาหารเหลือทิ้งเป็นเรื่องน่าอาย  จริง ๆ เราเคยชินกับการนำอาหารเหลือใส่กล่องกลับมาตลอด ด้านเจ้าของธุรกิจจัดเลี้ยงกล่าวว่า ร้านอาหารมีบริการใส่กล่องกลับ ขณะที่บริกรก็จะคอยเตือนว่าอยากนำอาหารใส่กล่องกลับไปด้วยหรือไม่

การเกิดกระแสนิยมใหม่“ทานหมดจาน”ในจีนครั้งนี้แยกไม่ออกจากการส่งเสริมและการนำที่ทรงพลังของนายสี จิ้นผิงประธานาธิบดีจีน ซึ่งท่านรณรงค์และยืนหยัดกระแสนิยมการ “ทานหมดจาน” พร้อมให้ความสำคัญอย่างมากกับปัญหาความปลอดภัยด้านธัญญาหาร รวมถึงการสร้างกระแสนิยม “การมัธยัสถ์อดออม ต่อต้านการสิ้นเปลือง” โดยย้ำหลายต่อหลายครั้งให้ยุติการสิ้นเปลืองอาหาร โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา  นายสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์หลายครั้งเน้นให้หยุดทานอาหารฟุ่มเฟือยโดยใช้งบประมาณของรัฐ ประชาสัมพันธ์ประเพณีดั้งเดิมอันดีงามของชนชาติจีนในการประหยัดทรัพยากร พร้อมทั้งเผยแพร่แนวคิด “การประหยัดเป็นนิสัยที่ดี การกินทิ้งขว้างเป็นเรื่องน่าอาย”

ปธน.จีนรณรงค์กระแสนิยม “ทานหมดจาน”_fororder_光盘行动图片2

ภายใต้การชี้นำของนายสี จิ้นผิง ตั้งแต่การประชุมสมัชชาครั้งที่ 18 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นต้นมา ท้องที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศต่างออกเอกสารที่เกี่ยวข้องและจัดกิจกรรม “ทานหมดจาน” เพื่อหยุดยั้งการสิ้นเปลือง ทำให้ “การสิ้นเปลืองอาหาร” ได้รับการปรับปรุงดีขึ้น โดยเฉพาะการทานอาหารสิ้นเปลืองโดยใช้งบประมาณของรัฐที่ประชาชนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ในบางพื้นที่ยังแก้ไขปัญหานี้ได้ไม่ดี เช่น บางคนต้องการความหรูหราของอาหารการกิน เวลาสั่งอาหารจึงเลือกแต่ของแพง ในงานเลี้ยงฉลองแต่งงาน หรือ งานศพ  ผู้คนจำนวนมากนิยมสั่งอาหารมากเกินไปจนเหลือทิ้ง ขณะที่โรงอาหารของโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือ ที่ทำงาน การสิ้นเปลืองอาหารก็มีความรุนแรงเช่นกัน ซึ่งถ้าหากศึกษาถึงสาเหตุก็มักจะเกี่ยวข้องถึงค่านิยมเก่าแก่ที่ชอบอวดฐานะหรือแข่งความร่ำรวย

เดือนสิงหาคม ปี 2020 นายสี จิ้นผิง ประเมินภาวะการสิ้นเปลืองอาหารว่า  เป็นเรื่อง “น่าตกใจและน่าเจ็บใจ” พร้อมอ้างบทกวีเก่าแก่ที่ว่า “ใครจะรู้ที่มาของข้าวสวยในถ้วย ทุกเมล็ดมาจากความขยันทำนาอันแสนเหนื่อยล้า” เพื่อแสดงถึงความเจ็บใจ

ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิงได้เสนอวิธีแก้ไขปัญหาว่า ต้องเพิ่มระเบียบทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มการกำกับดูแล ใช้มาตรการที่มีประสิทธิผล สร้างกลไกระยะยาว  เพื่อยับยั้งการสิ้นเปลืองอาหาร รวมทั้งต้องเพิ่มการปลูกฝังแนวคิดการประหยัด นิสัยการมัธยัสถ์อดออม ตลอดจนสร้างบรรยากาศที่ “การประหยัดเป็นเกียรติ และการสิ้นเปลืองเป็นเรื่องน่าอับอาย” ทั่วทั้งสังคม

เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด -19 ความปลอดภัยด้านธัญญาหารมีความสำคัญอย่างยิ่ง นายสี จิ้นผิงกล่าวเน้นหลายครั้งว่า ยิ่งเผชิญกับความท้าทายก็ยิ่งต้องประกันความปลอดภัยของธัญญาหารและอาหารอื่น ๆ ท่านเน้นด้วยว่า แม้จีนจะมีการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ทุกปี แต่ก็ต้องระมัดระวังวิกฤตด้านธัญญาหารด้วย ซึ่งผลกระทบจากโควิด-19 ในปีนี้ได้คอยเตือนให้ตระหนักถึง

Tim/kt/Ldan/lu

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

陆永江