เมื่อเร็วๆ นี้ เว็ปไซต์ Bloomberg News รายงานว่าก่อนครบรอบ 100 ปีการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปีหน้า รัฐบาลจีนอาจประกาศการบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนพิเศษในชนบท ซึ่งหมายถึงหลังเหตุการณ์สำคัญที่จีนดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจในด้านการตลาด ทำให้จีนขยับขึ้นมาเป็นประเทศใหญ่อันดับ 2 ทางเศรษฐกิจ ทำให้ กระบวนการพัฒนาของจีนได้ปักป้ายบอกระยะทางสำคัญอีกหนึ่งแห่ง
จากรายงานข่าวของ Bloomberg News ระบุว่า รัฐบาลจีนเห็นว่า นอกจากการมีรายได้พอเพียง ยังต้องมีอาหารและเสื้อผ้าที่พอเพียง มีหลักประกันการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน ลูกหลานมีโอกาสเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ และมีบ้านพักที่ปลอดภัย จึงจะพูดได้ว่าหลุดพ้นความยากจน รัฐบาลจีนได้ส่งสมาชิกพรรคฯ จำนวนกว่า 3 ล้านคนไปช่วยเหลือผู้ยากจนเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ที่มณฑลเสฉวน นายหลิว วั่นซือ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่รัฐบาล หัวหน้าผู้ผู้รับผิดชอบฝ่ายบริหารเขตชุมชนกั่นอึน มีหน้าที่ช่วยเหลือชาวนาที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ให้ชินกับรูปแบบการใช้ชีวิต เขามีการบันทึกอย่างละเอียดในเรื่องของรายได้และระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของทุกครอบครัว รัฐบาลท้องถิ่นลงทุน 420 ล้านหยวนสร้างชุมชนนี้ขึ้นมา และรองรับชาวนาจำนวนกว่า 6,000 คน จากหมู่บ้านชนเผ้าอี๋ 38 แห่ง
เจ้าหน้าที่รัฐบาลมณฑลเสฉวนกล่าวแนะนำโครงการและวิธีการขจัดความยากจนต่อคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า แต่ละครอบครัวออกเงิน 10,000 หมื่นหยวนก็จะสามารถซื้อบ้านใหม่หนึ่งหลัง เงินงวดนี้ส่วนหนึ่งเดิมเป็นเงินฝากธนาคาร ส่วนหนึ่งยืมจากเพื่อนญาติพี่น้อง และมีส่วนหนึ่งเป็นเงินอุหนุนจากรัฐบาล นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นยังมีจัดฝึกอบรมวิชาชีพ ตลอดจนให้เงินรางวัลเมื่อประพฤติดี เช่น การเก็บขยะ การเก็บของและส่งคืนเจ้าของ และช่วยเหลือแก้ไขข้อขัดแย้งของครอบครัวอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งจะคิดเป็นคะแนนและคะแนนเหล่านี้จะแลกข้าวหรือผงซักฟอกได้
นอกจากนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐยังใช้ความพยายามในการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านท้องถิ่นปรับเปลี่ยนแนวคิดหรือประเพณีที่ล้าสมัย เช่นมีการจัดตั้ง “สภาสีแดงและสีขาว” (ตั้งชื่อตามสีเสื้อผ้าที่ใส่ในงานแต่งงานและงานศพ) เป็นองค์กรที่ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในพิธีสำคัญ อย่างเช่นที่จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าอี๋ เหลียงซาน มณฑลเสฉวน ก็มีข้อเสนอว่าค่าใช้จ่ายงานแต่งงานจะไม่เกิน 60,000 หมื่นหยวน ส่วนงานศพจะฆ่าวัวไม่เกิน 2 ตัว
ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการชื่นชมจากชาวบ้านท้องถิ่นจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงนางหลัว ปาหนี จินโม่ เธอยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สามีของเธอได้รับงานปลูกมันฝรั่งที่มณฑลเหอเป่ยที่ห่างจากบ้านประมาณ 2,000 กิโลเมตร มีรายได้ 150 หยวนต่อวัน
(Bo/Lin)