การขจัดความยากจนเป็นความต้องการที่จะบรรลุอุดมการณ์แห่งความมั่งคั่งร่วมกันตามแนวคิดระบอบสังคมนิยม
พรรคคอมมิวนิสต์จีนถือการขจัดความยากจน ปรับปรุงคุณภาพชีวิตประชาชนและสร้างความมั่งคั่งร่วมกันเป็นภารกิจหลักตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค มุ่งแสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ระบอบสังคมนิยม ท่านเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำรุ่นที่สองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเคยกล่าวถึงแนวคิด “ความมั่งคั่งร่วมกัน” หลายครั้งโดยชี้ว่า ลักษณะพิเศษแห่งสังคมนิยมก็คือ “ความมั่งคั่งร่วมกัน” ไม่ใช่การปล่อยให้มีความเหลื่อมล้ำแบบแยกเป็นสองขั้ว ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสูงสุดของระบอบสังคมนิยม เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของระบอบสังคมนิยม
ท่านสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของจีนก็ได้ชี้อย่างชัดเจนว่า “ความมั่งคั่งร่วมกันนั้นเป็นหลักการพื้นฐานของระบอบสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของจีน ดังนั้นจะต้องทำให้ผลสำเร็จของการพัฒนาได้รับการแบ่งปันสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่ทิศทางของการสร้างความมั่งคั่งร่วมกัน ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ” สงครามขจัดความยากจนเป็นหนทางที่ต้องเดินฝ่าไปให้ได้เพื่อบรรลุอุดมการณ์แห่งความมั่นคั่งร่วมกันตามแนวคิดระบอบสังคมนิยมที่จีนยึดมั่นอย่างแน่วแน่มาโดยตลอด
การนำที่ทรงพลังของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนถือเป็นข้อได้เปรียบทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในการขับเคลื่อนการต่อสู้เพื่อขจัดความยากจนในประเทศจีน นับจากการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 18 ของพรรคฯ ภายใต้การนำของ ปธน.สี จิ้นผิง จีนได้เสริมสร้างภาวะความเป็นผู้นำของพรรคฯ ในสงครามขจัดความยากจนให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง พรรคฯ ถือเป็นหลักประกันทางการเมืองของสงครามขจัดความยากจน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภารกิจหนักหน่วงด้านการแก้ไขปัญหาความยากจน ทั้งพรรคฯและรัฐบาลถือการขจัดความยากจนเป็นภารกิจอันดับแรกมาโดยตลอด
ตามนโยบายของพรรคฯ การแก้ไขปัญหาความยากจนถือเป็นภาระหน้าที่ร่วมกันของ “เลขาธิการ 5 ระดับ” ซึ่งหมายถึงเลขาธิการพรรคฯ ระดับมณฑล เมือง อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน การขจัดความยากจนนั้นถือเป็นโครงการที่เลขาธิการทั้ง 5 ระดับต้องเข้าไปดำเนินการด้วยตนเอง ทุ่มเทอย่างเต็มที่และร่วมมือกันขับเคลื่อน โดยถือว่าเป็นภารกิจทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ และต้องดำเนินการด้วยความเข้มงวดอย่างที่สุด คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีมติให้ผู้รับผิดชอบสูงสุดทั้งพรรคฯและรัฐบาลในมณฑลหรือเขตปกครองตนเองที่แบกรับภารกิจขจัดความยากจนต้องลงนามในหนังสือแสดงความรับผิดชอบด้านภาระหน้าที่ซึ่งถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อส่วนกลาง พร้อมทั้งกำหนดภาระหน้าที่ความรับผิดชอบลงไปเป็นลำดับขั้นอย่างรัดกุม ให้เลขาธิการพรรคฯ ทั้ง 5 ระดับต้องร่วมกันขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ในรายงานการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 19 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้นำเสนอแผนขจัดความยากจนเพื่อให้ได้รับชัยชนะอย่างรอบด้าน โดยระดมสรรพกำลังของทั้งพรรคฯ ประชาชนทั่วประเทศ และทั่วทั้งสังคม มาดำเนินภารกิจและมาตรการขจัดความยากจนอย่างตรงจุด ยึดหลักให้องค์กร แกนนำส่วนกลางของพรรคฯ เป็นผู้บูรณาการวางแผนงาน พรรคฯ และรัฐบาลในแต่ละมณฑลต้องรับภาระความรับผิดชอบทุกอย่าง พรรคฯและรัฐบาลในระดับเมืองและอำเภอมุ่งขับเคลื่อนมาตรการภาคปฏิบัติอย่างรัดกุม สร้างเป็นกลไกการทำงานที่เข้มแข็ง ให้ทุกภาคส่วนทำงานสอดประสานกัน รวมทั้งขับเคลื่อนการประสานงานความร่วมมือระหว่างภูมิภาคตะวันออกกับตะวันตกให้ลงตัว เน้นภารกิจในพื้นที่ยากจนมากที่ต้องแก้ไขให้หลุดพ้นจากความยากจนอย่างรอบด้าน สร้างหลักประกันให้สามารถบรรลุเป้าหมายภายในปี 2020
เพื่อเสริมสร้างพลังให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่อยู่ในระดับแนวหน้าในการขจัดความยากจน คณะกรรมการกลางของพรรคฯ ได้กำหนดว่า ต้องส่งทีมงานช่วยเหลือขจัดความยากจนลงพื้นที่ประจำทุก ๆ หมู่บ้านที่ต้องการ เพื่อให้ทุกครอบครัวที่ยากจนมีคนรับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเข้าถึง จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ปี 2019 ทั่วประเทศจีนได้คัดเลือกเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจระดับอำเภอรวมกว่า 3 ล้านคนเข้าร่วมภารกิจลงพื้นที่ประจำหมู่บ้านเพื่อช่วยแก้ไขความยากจน ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ที่กำลังดำรงตำแหน่ง“เลขาธิการพรรคฯคนที่ 1”ประจำหมู่บ้านยากจน รวม 2.06 แสนคน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำหมู่บ้านอีก 7 แสนคน เจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้ใช้ปฏิบัติการเชิงรุกในการให้ความชวยเหลือแก่ชาวบ้าน ขับเคลื่อนนโยบายขจัดความยากจนทั้งระดับส่วนกลางและท้องถิ่นให้เข้าถึงพื้นที่อย่างแท้จริง ถือว่ามีบทบาทอย่างมากในสงครามขจัดความยากจนของจีน
BO/LU