วันที่ 21 ธันวาคม นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนพบกับคณะทูตจากสหภาพยุโรป และ 27 ประเทศสมาชิกสภาพยุโรป ที่ กรุงปักกิ่ง
โดยนายหวัง อี้ กล่าวว่าปีนี้เป็นปีครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-สหภาพยุโรป เป็นปีที่มีความสำคัญยิ่งในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหภาพยุโรป แม้เกิดการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหภาพยุโรปยังคงมีความคืบหน้าสำคัญ ความร่วมมือในภาคปฏิบัติได้กลายเป็นจุดเด่นในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหภาพยุโรป จีนได้กลายเป็นหุ้นส่วนการค้าใหญ่อันดับหนึ่งของสหภาพยุโรปเป็นครั้งแรก ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยมาตรวัดทางภูมิศาสตร์ระหว่างจีน-สหภาพยุโรป (the China-EU agreement on geographical indications) และคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างจีน-สหภาพยุโรป นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีการตกลงจัดตั้งกลไกการพูดคุยเจรจาระดับสูงในประเด็นการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีดิจิทัล.
นายหวัง อี้ กล่าวด้วยว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศในขณะนี้มีความสลับซับซ้อนและแปรปรวน จีน-สหภาพยุโรปต่างเป็นพลังสำคัญในกระบวนการกลไกพหุภาคี จึงควรร่วมกันสร้างเสถียรภาพให้กับโลกมากขึ้น ความร่วมมือระหว่างจีน-สหภาพยุโรปควรมีมากกว่าการแข่งขัน ความเห็นพ้องต้องกันระหว่างสองฝ่ายก็มากกว่าความเห็นต่าง จีน-สหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายมีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าสถานการณ์โลกจะผันแปรอย่างไร จีน-ยุโรปล้วนต้องยืนหยัดดำเนินการเจรจา และความร่วมมือต่อไปเพื่ออำนวยประโยชน์แก่กัน อีกทั้งยังต้องจัดการและควบคุมประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นต่างอย่างเหมาะสม
หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปและคณะทูตจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศจีนแสดงท่าทีว่าสหภาพยุโรปให้ความสำคัญกับบทบาทของจีนบนเวทีโลกอย่างมาก ยินดีที่จะร่วมกันใช้ความพยายามกับจีน ปฏิบัติตามความเห็นพ้องต้องกันที่ผู้นำสหภาพยุโรปและจีนได้บรรลุไว้ อีกทั้งจะส่งเสริมการติดต่อสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนเพื่อร่วมกันผลักดันให้การพูดคุยในประเด็นสำคัญ และความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่เป็นภาคปฏิบัติระหว่างสองฝ่ายประสบความคืบหน้าสำคัญ.
(bo/cai)