ระหว่างวันที่ 25-29 มกราคมที่ผ่านมา ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกจัดการประชุมดาวอสผ่านทางไกล ผู้นำหลายประเทศกล่าวคำปราศรัยเรียกร้องประชาคมโลกส่งเสริมความสามัคคีและร่วมมือกัน พิทักษ์และปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคี ร่วมกันรับมือกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา
นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า มนุษย์ถูกไวรัสโควิด-19 โจมตีอย่างกะทันหันโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด เลือกเดินทางผิด ขณะนี้ ถึงเวลาที่มนุษย์ทั้งมวลต้องยืนหยัดจิตวิญญาณแห่งความเข้าใจและฟื้นฟูพหุภาคีนิยม ทั่วโลกจำเป็นต้องส่งเสริมความสามัคคีและร่วมมือกัน
นายอัลเบอร์โต เฟอร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินากล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ของโลกในปัจจุบัน แต่ละประเทศควรหันมาไตร่ตรองรูปแบบการพัฒนาและความร่วมมือระหว่างประเทศของตน ทั่วโลกควรรับมือกับความท้าทายในขณะนี้ด้วยวิถีทางแห่งพหุภาคี
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีกล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคสมัยแห่งพหุภาคีนิยม เวลากำหนดนโยบายการฟื้นฟูของประเทศเยอรมณี ตลอดจนประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ไม่ควรลดระดับความร่วมมือกับบรรดาประเทศกำลังพัฒนา กลับต้องเพิ่มความร่วมมือเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์กล่าวว่า ขณะนี้ ประชาคมโลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมาย เช่น สถานการณ์โรคระบาด การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างประเทศจึงมีความสำคัญยิ่ง เมื่อมองการณ์ไกลแล้ว ทุกประเทศควรจับมือใช้ความพยายามร่วมกัน ส่งเสริมบทบาทขององค์การอนามัยโลกและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ กำหนดกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อบริหารและส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า ภายใต้เบื้องหลังแห่งสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ความสามัคคีระหว่างประเทศต่างๆ มีความสำคัญยิ่งกว่าเมื่อก่อน ญี่ปุ่นจะทุ่มเทกำลังเพื่อขยายขอบเขตของวงเศรษฐกิจที่เสรีและเที่ยงธรรม ส่งเสริมระบบการค้าเสรี
นายมาตาเมลา ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้กล่าวว่า มีแต่การปฏิบัติตามแนวคิดพหุภาคี ประชาคมโลกจึงจะรับมือกับความท้าทายได้ การแพร่กระจายของโรคระบาดสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทอันสำคัญขององค์กรพหุภาคี ในการส่งเสริมการประสานงานและร่วมมือกันเพื่อเอาชนะไวรัสให้ได้
(Yim/Zi)