วันที่ 19 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐได้กลับสู่การเป็นภาคีของ “ความตกลงปารีส” ที่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน
ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 2020 สหรัฐ ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก ได้ถอนตัวออกจาก “ความตกลงปารีส” อย่างเป็นทางการด้วยข้ออ้างว่า “ความตกลงปารีส” สร้างภาระด้านการคลังและเศรษฐกิจแก่สหรัฐมากขึ้น การกระทำดังกล่าวของสหรัฐได้สร้างผลกระทบต่อการปฏิบัติการ “ความตกลงปารีส” ซึ่งเป็นฉันทามติตามกลไกพหุภาคี และทำให้สหรัฐเองสูญเสียประโยชน์ ดังนั้น การที่สหรัฐกลับสู่ “ความตกลงปารีส” อีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ สหรัฐควรใช้ปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมมากกว่าการแสดงท่าที
ทำอย่างไรจึงจะทำได้ตามที่พูด ไม่ใช้ความตกลงให้กลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างพรรคการเมือง และสานต่อนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ล้วนเป็นโจทย์ที่รัฐบาลชุดนี้ต้องตอบให้ได้
ทั้งนี้รัฐบาลนายโจ ไบเดน มุ่งสร้างภาวะผู้นำสหรัฐในเวทีโลกอีกครั้งจากเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่มีเพียงกลไกพหุภาคีที่ “เจราจาร่วมกัน” เท่านั้น จึงจะสามารถอำนวยประโยชน์แก่กันได้
(BO/LING/CAI)