สถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางจีน รายงานว่า นางหวง เสี่ยวจวน สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ เป็นรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างสี ตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 เป็นต้นมา มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างสีดำเนินงานจับคู่บรรเทาความยากจน จัดกิจกรรมเอาใจใส่นักเรียนยากจนและเด็กที่พ่อแม่ไปทำงานในต่างถิ่น

เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า งานบรรเทาความยากจนของมหาวิทยาลัยประสบผลสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการประเมินที่ดีจากทั้งสังคม หากยังได้รับการชื่นชมจากนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัย นักศึกษาบางคนร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์อย่างแข็งขัน พร้อมกับหวังว่าจะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากขึ้นเพื่อนำประสบการณ์ของจีนกลับบ้านเกิด

ฤดูหนาว ค.ศ. 2016 ตามแผนของมหาวิทยาลัย เธอเดินทางไปยังจุดจับคู่บรรเทาความยากจนซึ่งอยู่ในอำเภอตงหลาน เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกว่างสีเป็นครั้งแรก เธอรับผิดชอบจับคู่บรรเทาความยากจนกับชาวนาสองครอบครัวที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน ชาวนาเหล่านี้ล้วนอาศัยอยู่บนภูเขาหิน เนื่องจากเป็นที่สูงและห่างไกลถนนหนทางยังไม่ถึงหน้าประตูบ้าน ต้องใช้เวลานานเดินอ้อมเขาจึงจะถึง ขณะที่ในบ้านของพวกเขาก็ไม่สะดวกเพราะชีวิตขาดแคลนน้ำประปา

หวง เสี่ยวจวนประสานคณะกรรมการชาวนาท้องถิ่นช่วยเหลือ 2 ครอบครัวยากจนโดยให้พวกเขาย้ายลงจากภูเขามายังบ้านใหม่ตามความต้องการ พื้นราบการเดินทางสะดวกมาก ที่บ้านมีน้ำประปา การใช้ชีวิตของชาวนาดีขึ้นอย่างมาก

หวง เสี่ยวจวนแนะนำว่า นอกจากรูปแบบการจับคู่แล้ว มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างสียังคัดสรรอาจารย์ดีเด่นไปยังหมู่บ้านเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ อันดับหนึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ทำงานประจำหมู่บ้านเพื่อดำเนินงานบรรเทาความยากจน พวกเขาปักหลักในท้องถิ่น ทำความรู้จัก เข้าใจ และวิเคราะห์สถานการณ์ในหมู่บ้านยากจน เพื่อแสวงหาวิธีการขจัดความยากจน พวกเขาช่วยฝึกเทคนิคปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปลูกไม้ผล และเลี้ยงไก่ดำแก่ครอบครัวยากจนตามสภาพที่เหมาะสม รวมทั้งสอนชาวนาทำไลฟ์สตรีมขยายช่องทางจำหน่าย

ภายใต้ความพยายามของทุกฝ่าย เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว อำเภอตงหลานออกจากบัญชีพื้นที่ยากจน ทำอย่างไรให้การขจัดความยากจนเชื่อมโยงกับการฟื้นฟูชนบทซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ หวง เสี่ยวจวน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะชี้แนะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานประจำหมู่บ้านให้วางแผนฟื้นฟูชนบท แสวงหาศักยภาพของครอบครัวยากจน ให้ความสำคัญกับการบรรเทาความยากจนผ่านการศึกษาและการบริโภค ตลอดจนช่วยให้ชาวนาท้องถิ่นเพิ่มรายได้อย่างมั่นคงและเสริมสร้างผลงานการขจัดความยากจน

ในฐานะสมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนจากวงการการศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ปักหลักอยู่ในภาคตะวันตกของจีนผู้หนึ่ง หวง เสี่ยวจวนให้ความสนใจกับข้อบกพร่องของระบบการศึกษาในพื้นที่ชายแดนตลอดการปฏิบัติงานปีนี้ ในระหว่างการสำรวจวิจัยเธอพบพื้นที่ชายแดนที่ยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง เช่น ขาดแคลนการศึกษาข้อมูลสารสนเทศ และขาดแคลนครู เป็นต้น

การบรรเทาความยากจนต้องเผยแพร่ความรู้ก่อน การให้เด็ก ๆ ในพื้นที่ยากจนได้รับการศึกษาที่ดีเป็นภารกิจสำคัญด้านการบรรเทาความยากจนและการพัฒนา ถือเป็นช่องทางตัดวงจรความยากจนไม่ให้ส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังที่สำคัญ

ในช่วงการประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีนปีนี้ เธอพร้อมด้วยสมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติคนอื่น ๆ ได้ร่วมยื่น “ข้อเสนอว่าด้วยการยกระดับการพัฒนาการศึกษาอย่างมีคุณภาพในพื้นที่ชายแดนกลายให้เป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติ” โดยผนึกกำลังอุดช่องโหว่ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนการสอน ดำเนินโครงการสร้างสรรค์ข้อมูลสารสนเทศตามโรงเรียนในชายแดน และดำเนินโครงการช่วยเหลือพื้นที่ชายแดนสนับสนุนการศึกษา

มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างสีที่สมาชิกหวง เสี่ยวจวนทำงานอยู่เริ่มเปิดรับนักศึกษาที่เรียนในจีนตั้งแต่ทศวรรษ 1980 แห่งสตวรรษที่ 20 โดยนักศึกษามากกว่าร้อยละ 90 มาจากประเทศเอเชียตะวันออก ในเวลาทำงานปกติ หวง เสี่ยวจวนมักแลกเปลี่ยนความเห็นกับพวกเขา โดยอาจารย์และนักศึกษาที่มาจากเอเชียตะวันออกรับทราบงานขจัดความยากจนและได้ยินเรื่องราวอันซาบซึ้งใจเกี่ยวกับการบรรเทาความยากจนผ่านการรายงานข่าวทั้งโทรทัศน์และเว็บไซต์ รวมถึงหลักสูตรวัฒนธรรมจีนและสภาพจีน เป็นต้น พวกเขาพากันชื่นชมผลงานการขจัดความยากจนของจีนโดยเห็นว่า การขจัดความยากจนมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ชนบท ผ่อนคลายความหนาแน่นของประชากรในเมือง และส่งเสริมการพัฒนาประเทศ

ขณะเดียวกันนักศึกษาเหล่านี้ก็ได้เข้าใจถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการพัฒนาประเทศและจิตใจความสามัคคีเกื้อกูลกันของประชาชนจีน นักศึกษาบางคนที่เรียนอยู่กว่างสีมาหลายปีมีความผูกพันมาก พวกเขาทำงานอย่างแข็งขัน เข้าร่วมการวิจัยภาคสนามของมหาวิทยาลัย และบริจาคเสื้อผ้ารวมถึงหนังสือแก่พื้นที่ยากจนผ่านชุมชนและมหาวิทยาลัยของตน

หวง เสี่ยวจวน กล่าวว่า หลายปีมานี้ นักศึกษาต่างชาติที่เรียนในจีนจำนวนมากสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของชนบทกว่างสีทั้งด้านการคมนาคมและการพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นต้น นักศึกษาต่างชาติจากประเทศที่คล้ายคลึงกับกว่างสีด้านภูมิอากาศและสภาพธรรมชาติเห็นว่า การบรรเทาความยากจนมีความหมายสำคัญต่อการพัฒนาของประเทศตตน เป็นที่น่าเรียนรู้อ้างอิง นักศึกษาบอกเธอว่า ยินดีแนะนำเรื่องราวการขจัดความยากจนของจีนไปเผยแพร่แก่คนในครอบครัวและเพื่อน ๆ พร้อมทั้งหวังว่าในอนาคตมหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมทัศนศึกษาดูงานในพื้นที่ทุรกันดารและชนบทเขตภูเขาของกว่างสี ตลอดจนติดต่อกับชาวบ้านและนักเรียนท้องถิ่นเพื่อสร้างคุณูปการต่อการพัฒนาประเทศหลังจากกลับบ้านเกิดในอนาคต

(Tim/Cui)