เมื่อเร็วๆ นี้ กรุงปักกิ่งจัดฟอรั่มระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาของจีนปี 2021 ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์และผู้แทนแวดวงการค้าต่างแสดงความคิดเห็นว่า การที่จีนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปล่อยคาร์บอนให้ถึงจุดสูงสุดในปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2060 มีความสำคัญยิ่งต่อทั่วโลก โดยเห็นว่าจีนมุ่งที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งจะเป็นผลต่อทั่วโลก และนำมาซึ่งโอกาสต่อการพัฒนาสีเขียวของทั่วโลกในอนาคต
เควิน สไนเดอร์ หุ้นส่วนผู้บริหารทั่วโลกของ McKinsey&Company กล่าวในฟอรั่มว่าในปี 2018 การลงทุนในแวดวงพลังงานหมุนเวียนของจีนมีมูลค่าเกือบหนึ่งในสามของทั่วโลก มีทีมรถบัสไฟฟ้าจำนวนมากกว่า 95% และรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับโดยสารเกือบ 50% ของทั่วโลก
ส่วนนายคาร์ลอส บริโต ซีอีโอของบริษัท AB InBev ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียงของโลก เปิดเผยว่าปี 2020 โรงงานผลิตเบียร์ที่มณฑลเสฉวนเป็นโรงงานผลิตเบียร์เพียงแห่งเดียวของจีนที่ใช้พลังงานหมุนเวียนผลิตไฟฟ้า 100% โดยในปีนี้ยังมีอีกสองโรงงานที่ทำแบบนี้ เขากล่าวว่า AB InBev สามารถแสดงบทบาทสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของจีน และใช้นวัตกรรมผลักดันการพัฒนาสีเขียวที่มีคุณภาพสูง
นายฌอน ปาสคาล์ ทรีโคอีร์ ประธานและซีอีโอของบริษัท Schneider Electric กล่าวว่ายินดีร่วมมือกับหุ้นส่วนของจีน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับประสิทธิภาพทางอุตสาหกรรม และลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอนพร้อมกัน
ส่วนนายเดวิด ไอคแมน ผู้แทนประจำจีนของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก ระบุว่า ในอนาคตจีนจะแสดงบทบาทสำคัญในการสร้างระบบ ESG หรือระบบสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลของโลก ซึ่งปัจจุบันได้เห็นผู้ลงทุนของจีนและต่างประเทศสนใจโอกาสการทำธุรกิจและความร่วมมือในแวดวงที่เกี่ยวข้อง
Bo/Chu/Zhou