จีนกำลังเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน

2021-08-12 20:37:58 | ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
Share with:

จีนกำลังเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน_fororder_民主之路3

หลายคนถามว่า  ขณะนี้  จีนใช้ปฏิบัติการเชิงรุกมากไปหน่อยหรือเปล่า?  ในอนาคต จีนที่พัฒนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจะมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศเป็นอย่างไร? ประชาคมโลกจะต้องเข้าใจจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างไร? 

เมื่อเร็วๆนี้   ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุและโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (CMG : China Media Group) ได้นำคำถามเหล่านี้ไปสัมภาษณ์นายเจิ้ง ปี้เจียน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนวัตกรรมและยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งประเทศจีน  นายเจิ้ง ปี้เจียนได้แสดงความคิดเห็นว่า กระบวนการพัฒนาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลายเป็นแกนนำของประชาชน และเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์สังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน  นี่เป็นผลที่เกิดจากวิวัฒนาการของจีนในยุคปัจจุบัน  ขณะนี้ จีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคแห่งประชาชน   คนรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วงทศวรรษ 1980 ทศวรรษ 1990 และทศวรรษ 2000  กำลังกลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนอันยิ่งใหญ่ในยุคใหม่นี้ 

นายเจิ้ง ปี้เจียน กล่าวว่า     จีนที่พัฒนาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปีที่ผ่านมามีลักษณะพิเศษหลายประการดังนี้ ก่อนอื่น  จีนไม่เคยดำเนินนโยบายที่เป็นลัทธิอาณานิคมเช่นเดียวกับประเทศตะวันตก  ประการที่สอง จีนไม่เคยดำเนินนโยบายครองความเป็นใหญ่ในโลกเช่นเดียวกับสหรัฐฯ ประการที่สาม จีนไม่เคยทำสิ่งที่เรียกว่า “ครอบครัวใหญ่แห่งลัทธิสังคมนิยม” เช่นเดียวกับอดีตสหภาพโซเวียด  ประการที่สี่ จีนไม่เคยเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทางทหารใด  เช่น องค์การนาโต และองค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ   และประการสุดท้าย  จีนไม่เคยทำสงครามเพื่อขยายอิทธิพลของตนเช่นเดียวกับที่บางประเทศทำในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง

ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน  จีนได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคของประชาชน  ประชาชนทุกชนเผ่าทั่วประเทศจะต้องแบกรับภารกิจอันยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน  และคนรุ่นใหม่กำลังกลายเป็นพลังสำคัญในการบรรลุภารกิจที่ยิ่งใหญ่ดังกล่าว  

จีนกำลังเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน_fororder_民主之路1

นายเจิ้ง ปี้เจียน กล่าวด้วยว่า  หากต้องการเข้าใจจีน ต้องเข้าใจพรรคคอมมิวนิสต์จีนก่อน  กระบวนการพัฒนาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลายเป็นแกนนำของประชาชนจีน และพลังขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน นี่เป็นผลที่เกิดจากวิวัฒนาการของจีนในช่วง 109 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับตั้งแต่สงครามฝิ่นเกิดขึ้นเมื่อค.ศ.1840 มาจนถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้นเมื่อ ค.ศ.1949   

หลายๆคนจากประเทศตะวันตกถามอยู่เสมอว่า  ทำไมจีนไม่ดำเนินการตามระบบหลายพรรคการเมือง หรืออย่างน้อยสองพรรคการเมือง 

นายเจิ้ง ปี้เจียนแสดงความคิดเห็นว่า   บุคคลที่ตั้งคำถามเหล่านี้คงไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ของจีน  แท้ที่จริง  หลังเกิดสงครามฝิ่นเมื่อ ค.ศ.1840 ชาวจีนที่มีความคิดก้าวหน้าในสมัยนั้น เคยพยายามศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ของประเทศตะวันตก เพื่อหาแนวทางการพัฒนาประเทศที่ถูกต้อง     รวมทั้งได้นำระบบหลายพรรคการเมือง และระบบการเลือกตั้งแบบประเทศตะวันตกมาใช้ในจีน  พวกเขานึกว่า  การใช้ระบบการเมืองของประเทศตะวันตกต้องเป็นแนวทางการพัฒนาประเทศที่ถูกต้อง   เมื่อค.ศ.1913 ซึ่งเป็นช่วงต้นของสาธารณรัฐจีน   จีนมีพรรคการเมืองกว่า 300 พรรค  พรรคการเมืองเหล่านี้ได้เลือกนายหยวน ซื่อไข่ ผู้ที่มีท่าทีต่อต้านการปฏิวัติขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี  ต่อมา นายหยวน ซื่อไข่ ประกาศรื้อฟื้นระบบกษัตริย์   และตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิ  แต่เขานั่งอยู่ในบัลลังก์จักรพรรดิเพียง 83 วันเท่านั้น ก็ต้องประกาศสละบัลลังก์ เพราะถูกประชาชนทั่วประเทศคัดค้าน ผลสุดท้ายก็คือ  ระบบหลายพรรคการเมืองในจีนต้องประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง 

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่า จีนเคยใช้ระบบหลายพรรคการเมืองแล้วเมื่อ 100 ปีก่อน ช่วงเวลานั้น  บุคคลที่มีความคิดก้าวหน้าในจีน รวมทั้งสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนรุ่นแรกบางส่วนเคยมุ่งมั่นใฝ่ฝันที่จะนำระบบประชาธิปไตยของประเทศตะวันตกมาใช้ในจีน แต่ต่อมา พวกเขาได้รับบทเรียนต่างๆอย่างมากจากภาคปฏิบัติ  นอกจากนี้ ช่วงเวลานั้น กลุ่มประเทศมหาอำนาจที่เป็นจักรวรรดินิยม เช่น ญี่ปุ่นยังพยายามที่จะเข้ามารุกรานและยึดครองจีน    ทำให้บุคคลที่มีความคิดก้าวหน้าส่วนใหญ่ในจีนเริ่มตื่นตัวและตระหนักว่า  การใช้ระบบการเมืองตะวันตกในจีนไม่เพียงแต่ไม่สามารถกู้จีนได้  หากยังจะทำให้จีนอ่อนแอลงมากขึ้นด้วยซ้ำ      นายเหมา เจ๋อตง อดีตผู้นำจีนที่ล่วงลับไปแล้วเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการใช้อำนาจการปกครองแบบประชาธิปไตยของประชาชนจีนว่า   การรุกรานจีนของประเทศที่เป็นจักรวรรดินิยมได้ทำลายความฝันของชาวจีนที่จะเรียนรู้จากประเทศตะวันตก 

จีนกำลังเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน_fororder_民主之路2

นายเจิ้ง ปี้เจียนกล่าวว่า  รู้สึกแปลกประหลาดมากที่ประเทศตะวันตกซึ่งเป็นครูจะมารังแก กดขี่ และรุกรานจีน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ในยุคสมัยนั้น  จริง ๆ แล้ว ชาวจีนเคยพยายามเรียนรู้และปฏิบัติตามระบบการเมืองของประเทศตะวันตก แต่ผลปรากฏว่า นั่นเป็นทางตัน   หากใช้ระบบนั้นในจีนต่อไป เป้าหมายการพัฒนาประเทศของประชาชนจีนจะไม่สามารถปรากฏเป็นจริงขึ้นได้  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้  พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงได้เกิดขึ้นตามความต้องการของยุคสมัย 

ช่วงหลายปีมานี้  เราได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า “การปฏิวัติดอกมะลิ (Jasmine Revolution)” เกิดขึ้นที่ภาคตะวันออกกลาง  บางประเทศในตะวันออกกลางพยายามนำระบบการเมืองของประเทศตะวันตกมาใช้  แต่สุดท้ายก็ต้องประสบความล้มเหลว   พูดตรงๆได้เลยว่า บทเรียนแบบนี้ จีนเคยได้รับมาแล้วเมื่อ100 ปีก่อน

จีนยังจะบอกให้ชาวโลกเข้าใจว่า ปัจจุบัน จีนกำลังเดินไปสู่หนทางประชาธิปไตยที่แตกต่างจากของประเทศตะวันตก  จีนเรียกหนทางนี้ว่า  ประชาธิปไตยของประชาชน    ในประเทศจีน พรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรครัฐบาลที่ใช้อำนาจปกครองบริหารประเทศอย่างเต็มที่  ส่วนอีก 8 พรรคการเมืองก็มีส่วนร่วมในกิจการบริหารประเทศบ้านเมือง   จีนมีระบบการเลือกตั้งที่ควบคู่ไปกับระบบการปรึกษาหารือทางการเมือง ปัจจุบัน สองระบบดังกล่าวนับวันได้รับการพัฒนาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น     จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ชัดว่า จีนไม่เพียงแต่มีประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง  หากยังมีประชาธิปไตยผ่านการปรึกษาทางการเมืองด้วย  ดังนั้น ระบบประชาธิปไตยจีนในปัจจุบันจึงค่อนข้างมีความครบถ้วนและสมบูรณ์  และสอดประสานกับระบบกฎหมายด้วยดี   นี่ก็เป็นระบบประชาธิปไตยแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์ของจีน

(yim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (24-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (23-11-2567)

  • เกาะกระแสจีน (23-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (22-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (22-11-2567)

崔沂蒙