วัฒนธรรมเป็นจิตวิญญาณของชนเผ่า การยอมรับทางวัฒนธรรมเป็นรากเหง้าแห่งความสามัคคีของชนเผ่า นายสี จิ้นผิง ปธน.จีน ให้ความสำคัญกับการสืบสานและคุ้มครองวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อย ตลอดจนการส่งเสริมกิจการที่มีอัตลักษณ์ของชนเผ่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาระบุขณะลงพื้นที่ “ปี้สู่ซานจวง” เมืองเฉิงเต๋อ มณฑลเหอเป่ยว่า วัฒนธรรมดั้งเดิมอันดีงามของประชาชาติจีนที่มีนัยอันหลากหลาย ควรคุ้มครองด้วยดี สืบสานด้วยดี และใช้เป็นประโยชน์ด้วยดี เพื่อสร้างเสริมความเชื่อมั่นในตัวเองและผนึกจิตใจของประชาชาติทางวัฒนธรรมให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิงลงพื้นที่มณฑลชิงไห่ เขาสะดุดตาพรมทิเบตอันสวยประณีตที่แต่ละผืนมีขนาดและรุ่นต่างกัน
“หลากหลายตระการตาจริง ๆ” นายสี จิ้นผิงเข้าใกล้ผลงานพรมทิเบตด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาใช้มือสัมผัสเนื้อของพรมทิเบตเป็นระยะ ๆ
พรมทิเบตเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์ของชนเผ่าทิเบต เป็นอัญมณีล้ำค่าของงานฝีมือที่มีมาช้านานของประชาชาติจีน พรมทิเบตที่ผลิตในมณฑลชิงไห่ทำจากขนแพะธรรมชาติในท้องถิ่น ซึ่งได้ชื่อสามัญว่า “ขนสีขาวใหญ่ซีหนิง” เป็นผลงานหัตถกรรมของช่างทำพรมที่มีความเชี่ยวชาญ
กรรมวิธีการทำพรมทิเบตมีประวัติกว่า 1,000 ปี ช่างฝีมือได้สืบสานกันรุ่นสู่รุ่น ปี 2006 “กรรมวิธีการทำพรมทิเบตเจียหยา” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติ
ปัจจุบันพรมทิเบตจำหน่ายไกลถึงยุโรป สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง กว่า 40 ประเทศ เป็นกิจการที่สร้างตำแหน่งงานและเงินรายได้แก่ชาวท้องถิ่น
ทั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ระบุว่า พรมทิเบตเป็นกิจการที่ตรงตามสภาพที่เป็นจริงของมณฑลชิงไห่ มีบทบาทช่วยเหลือผู้ยากจน สร้างความร่ำรวย สร้างความเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่ชนบท ตลอดจนส่งเสริมความสามัคคีของชนเผ่า
เดือนกุมภาพันธ์ 2021 นายสี จิ้นผิง ปธน.จีน ลงพื้นที่มณฑลกุ้ยโจว เขาเดินทางไปยังหมู่บ้านฮั่ววู ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าม้ง ในอำเภอเฉียนซี เมืองปี้เจี๋ย ที่โรงงานช่วยเหลือผู้ยากจนในหมู่บ้านแห่งนี้ นายสี จิ้นผิงชมเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เป็นฝีมือเย็บปัก “เหมียวซิ่ว” ชนเผ่าม้งอันสวยประณีตทีละชุดทีละตัว เขาถามชาวบ้านเกี่ยวกับกรรมวิธีของงานเย็บปัก “เหมียวซิ่ว” ชนเผ่าม้ง
จากนั้น นายสี จิ้นผิงกล่าวกับผู้คนทั้งหลายว่า ของดั้งเดิมก็เป็นของแฟชั่น งานเย็บปักจากเข็มทีละเข็มด้ายทีละด้ายงดงามทีเดียว! ควรส่งเสริมงานเย็บปัก “เหมียวซิ่ว” ชนเผ่าม้งให้เจริญเติบโตได้ด้วยดีเพราะเป็นทั้งการสืบสานและส่งเสริมวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อย วัฒนธรรมดั้งเดิม พร้อมทั้งสามารถนำมาช่วยเหลือผู้ยากจนและพัฒนาสร้างความเจริญในพื้นที่ชนบทด้วย
ทั้งนี้ พรมทิเบตและงานเย็บปัก “เหมียวซิ่ว” ชนเผ่าม้งแต่ละตัวเป็นผลงานที่หลอมรวมกรรมวิธีดั้งเดิมและแฟชั่นสมัยใหม่ ทั้งยังฝากฝังการใฝ่หาชีวิตที่สดใสของชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ
เดือนมกราคม 2020 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังหมู่บ้านชนเผ่าหว่า (ชนเผ่าว้า) ที่ซือโม่ลา เมืองเถิงชง มณฑลหยุนหนาน เพื่อเยี่ยมเยือนพี่น้องชาวบ้าน
“ซือโม่ลา” ในภาษาหว่าหมายความว่า “แดนแสนสุข” หมู่บ้านแห่งนี้มีประวัติกว่า 500 ปี มีชนเผ่าหว่า ชนเผ่าฮั่น ชนเผ่าไป๋ ชนเผ่าไต และชนเผ่าอื่น ๆ อยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง
ที่หมู่บ้านที่มีอัตลักษณ์ชนกลุ่มน้อยแห่งนี้ นายสี จิ้นผิงตีกลองไม้ชนเผ่าหว่า 3 ครั้งเสียงดังกึกก้องตามประเพณีท้องถิ่น อำนวยพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล บ้านเมืองมีความสงบสุข และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขในรอบปีใหม่
ช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนปี 2014 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปยังเขตมองโกเลียใน เป็นประธานพิธี “ประทานพรแก่สัตว์ 5 ชนิด” ของชนเผ่ามองโกล นายสี จิ้นผิงใช้นิ้วนางจุ่มน้ำนมวัวสดในถ้วยเงินแล้วดีด 3 ครั้งตามประเพณีมองโกล พร้อมอวยพรให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล สัตว์ทั้ง 5 ชนิดเจริญเติบโต ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
ทั้งนี้ อิริยาบถและการแสดงออกดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำสูงสุดของจีนเคารพวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนกลุ่มน้อย ทั้งยังมีความปรารถนาดีต่อพี่น้องชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ทั่วประเทศ
พี่น้องชนเผ่าน้อยส่วนใหญ่ถนัดร้องรำทำเพลง มักทำการแสดงเนื่องในโอกาสเทศกาลประจำเผ่าหรือต้อนรับมิตรจากแดนไกล
ที่ทิเบตพี่น้องประชาชนชูดอกไม้และขับลำนำร่ายรำกัน
ที่บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์ชนเผ่ากว่างซีมีการแสดงขับร้องโต้ตอบกันของชนเผ่าจ้วงในเทศกาล “ร้องเพลง” ในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ตามประเพณีพื้นบ้าน
ที่มณฑลหยุนหนานพี่น้องประชาชนแสดงระบำพื้นบ้านชนเผ่าหว่าอย่างรื่นเริงหรรษา
ที่มณฑลกุ้ยโจวพี่น้องชนเผ่าม้งตีกลอง เป่าแคน ร้องเพลงต้อนรับแขกของชาวม้ง ต้อนรับการมาเยือนของปธน. สี จิ้นผิง ท่ามกลางเสียงเพลงที่ชื่นใจและลีลาการร่ายรำอันอ่อนช้อย
ทั้งนี้ การร้องเพลงหรือเต้นรำชุดหนึ่งเป็นการบ่งบอกถึงน้ำใจไมตรีจิตของพี่น้องชนกลุ่มน้อยและเป็นการเชิดชูอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด
เดือนกรกฎาคม 2015 นายสี จิ้นผิงเดินทางไปตรวจงานที่มณฑลจี๋หลิน โดยกำหนดการแรก คือ จังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าเกาหลีเอี๋ยนเปียน เมื่อลงจากเครื่องบิน เขานั่งรถไปยังพิพิธภัณฑ์เอี๋ยนเปียนชมนิทรรศการผลงานการพัฒนาจังหวัดปกครองตนเองชนเผ่าเกาหลีเอี๋ยนเปียนและนิทรรศการประเพณีพื้นบ้านชนเผ่าเกาหลี จากนั้นที่หมู่บ้านกวางตง นายสี จิ้นผิงชมการแสดงของคณะนาฏศิลป์ผู้สูงอายุ พร้อมทั้งชื่นชมว่า ชาวเกาหลีเต้นรำได้งามตา ท่าทางการเต้นการรำแตกต่างจากที่อื่น
กล่าวได้ว่า การร้องรำทำเพลงประจำเผ่าเป็น “นามบัตรทางวัฒนธรรม” เคลื่อนที่ของแต่ละชนเผ่า วัฒนธรรมแต่ละชนเผ่าที่มีความปรองดองกันท่ามกลางความแตกต่างและหลอมรวมเข้าด้วยกันเป็นรากเหง้าของอารยธรรมประชาชาติจีน
สำหรับความสำคัญของการสืบสานวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ นั้น นายสี จิ้นผิงมีวิสัยทัศน์ยาวไกล เขาย้ำว่า ควรเพิ่มการสนับสนุนโครงการสืบสานสิ่งเลิศล้ำที่สุดของชาติบ้านเมืองและโครงการคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้มากขึ้น เพิ่มการวิจัยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชนกลุ่มน้อยให้มากขึ้น ตลอดจนสร้างเสริมจิตสำนึกประชาชาติจีนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเหนียวแน่น
(TIM/LING/LU)