ประชาธิปไตยไม่ใช่สิทธิบัตรของประเทศใด แต่เป็นสิทธิของประชาชนทุกประเทศ” เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 76 คำพูดดังกล่าวของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เป็นสิ่งที่น่าขบคิดอย่างลึกซึ้งและแลกเปลี่ยนหารือกัน
ในประเทศจีน ประชาชนเป็นศูนย์กลางของประชาธิปไตย ซึ่งเป็น “ประชาธิปไตยของประชาชนตลอดทั้งกระบวนการ” ข้อกำหนดและนโยบายการนิติบัญญัติสำคัญๆ ล้วนแต่ปฏิบัติตามระบบระเบียบ และผ่านการเตรียมการทางประชาธิปไตย และมีขึ้นจากการตกลงตามหลักวิทยาศาสตร์และประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ของจีนจะต้องผ่านการคัดเลือกทุกชั้นและหลายขั้นตอน เพื่อประกันให้เกิดการบริการประชาชนอย่างเต็มใจ ประชาธิปไตยไม่ใช่ของตกแต่ง ที่สำคัญต้องมีผลบังคับใช้ จากการให้ประชาชนจีน 1,400 ล้านคนหลุดพ้นจากภาวะยากจนที่สุด ถึงจีนได้นำหน้าควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงอัตราการสร้างคุณูปการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกสูงกว่า 30% ในช่วงหลายปี ประชาธิปไตยแบบจีนได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการปกครองที่น่าทึ่งในโลก
อีกด้านหนึ่ง ในรัฐสภาสหรัฐฯนั้น มีการโต้เถียงและเสนอญัตติที่ตกลงกันไม่ได้บ่อยครั้ง แม้ว่าเผชิญหน้ากับการซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สองพรรคก็ยังโต้แย้งกันเหมือนเดิม “ประชาธิปไตยแบบเล่นเกม” “ประชาธิปไตยการเงิน” เช่นนี้ จะเปลี่ยนเป็นประสิทธิภาพการปกครองอย่างไร จากเหตุการณ์อาคารรัฐสภาสหรัฐฯถูกโจมตีในช่วงการเลือกตั้ง มาถึงการที่จำนวนของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19แพร่ระบาดของสหรัฐฯมากกว่าช่วงการระบาดไข้หวัดใหญ่สเปน ความพ่ายแพ้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้รัศมีของ“ประภาคารแห่งประชาธิปไตยทั่วโลก” จางหายไป
Yim/LR/Cui