"สังคมมั่งคั่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชาวบ้านเป็นสำคัญ"
“หากไม่เข้าใจชนบท ไม่เข้าใจพื้นที่ยากจน และไม่เข้าใจเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่ยากจน ก็จะไม่รับรู้และเข้าใจประเทศจีนอย่างแท้จริง และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะบริหารประเทศจีนด้วยดี"
“ช่วงเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าทำงานในอำเภอ เมือง มณฑล และรัฐบาลส่วนกลางตามลำดับ การบรรเทาความยากจนเป็นส่วนสำคัญของงานข้าพเจ้าโดยตลอด เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าใช้พลกำลังมากที่สุด”
ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้านไปจนถึงผู้นำสูงสุดของจีน นายสี จิ้นผิงคอยห่วงใยประชากรที่ยากจนในชนบทเสมอ
ทุกวันนี้ จีนได้ขจัดความยากจนสุดขีดเชิงประวัติศาสตร์ การพัฒนาชนบทให้เจริญรุ่งเรืองกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านนับวันดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"วันที่ดีกว่าจะมาถึงในวันข้างหน้า!"
ย้อนรอยเรื่องราวต่างๆ ของปธน.สี จิ้นผิงกับชาวบ้าน ทำให้รู้ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณแห่งการรักชาติรักประชาชนของนายสี จิ้นผิง ซึ่งเคยกล่าวว่า "ข้าพเจ้าจะอุทิศตนอย่างไม่เห็นแก่ตัว จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง"
“ข้าพเจ้าเคยกล่าวว่าต้องไม่มีผู้ใดตกขบวนบนหนทางขจัดความยากจน ชาวจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนพูดคำไหนคำนั้น!”
21 กรกฎาคม ปี 2021 ในหมู่บ้านกาลา เมืองหลินจือ เขตปาอี๋ เมืองหลินจือ เขตปกครองตนเองทิเบต ปธน.สี จิ้นผิงเข้าไปเยี่ยมบ้านของชาวบ้านชื่อ ต๋าหว่าเจียนชัน
ห้องนอน ห้องครัว ห้องเก็บของ ห้องน้ำ และอื่นๆ นายสี จิ้นผิงมองดู สอบถามและกำชับอย่างละเอียด เขาห่วงใยถึงทุกๆด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของชาวบ้าน
สี จิ้นผิงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกับครอบครัวของต๋าหว่าเจียนชัน และพูดคุยกับพวกเขา เขารู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่าเมื่อปีที่แล้วครอบครัวของต๋าหว่าเจียนชันมีรายได้เกิน 300,000 หยวนจากการบริการขนส่งสิ่งของ การจ่ายเงินปันผลในเทศกาลดอกท้อ การปล่อยเช่าที่ดิน การเพาะปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ สี จิ้นผิงกล่าวว่า "รายได้ของพวกคุณ บวกลบแล้วเป็นหลายแสน เป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก"
“ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชีวิตของประชาชนทุกชนเผ่าจะดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสมือนดอกงาที่ผลิดอกงามสูงขึ้นเรื่อยๆ” ปธน.สี จิ้นผิงส่งคำอวยพรแก่บรรดาชาวบ้านทั้งหลาย
ไม่เพียงแต่กำชับด้วยความจริงใจเท่านั้น หากยังจดจำในใจไม่เคยลืมเลือนอีกด้วย
"ต้องไม่มีผู้ใดตกขบวนบนหนทางขจัดความยากจน" – ความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ นายสี จิ้นผิงได้หว่านเมล็ดไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเขายังเป็นปัญญาชนรุ่นเยาว์ที่รับการฝึกอบรมในชนบท
ในช่วงเวลา 7 ปีที่ใช้ชีวิตและทำงานในชนบท สี จิ้นผิงกับชาวบ้านอยู่กินและทำงานร่วมกัน เขานำบรรดาชาวบ้านขุดบ่อน้ำ สร้างเขื่อนกั้นโคลนถมดิน ปรับพื้นที่นาขั้นบันได และสร้างบ่อก๊าซชีวภาพ เขาฟันฝ่าต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายเรียบง่าย คือ "มีแป้งข้าวโพดไว้ทานได้ตลอดสี่ฤดูกาล" ตลอดเวลาที่ผ่านมา ปธน.สี จิ้นผิงไม่มีวันลืมความยากลำบากของชาวนาและทุกสิ่งทุกอย่างในชนบทได้
เดือนตุลาคม ค.ศ. 1975 ก่อนอำลาหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ สี จิ้นผิงกล่าวกับเพื่อนชาวบ้านทั้งหลายว่า “ประชาชนในเหลียงเจียเหอของเรายอมรับและช่วยเหลือผมด้วยความเสียสละ ให้ผมได้เข้าสู่สังคมที่นี่ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ และดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำหมู่บ้าน ข้าพเจ้าออกเดินทางจากที่นี่ กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมือง ตลอดชีวิตของข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมทุกสิ่งที่เหลียงเจียเหอมอบให้”
แม้จะห่างกันไกลแสนไกล แต่ความผูกพันอันลึกซึ้งที่มีต่อกันไม่เคยเสื่อมถอย
หลังจากออกจากหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ สี จิ้นผิงเคยเขียนตอบจดหมายถึงชาวบ้านเหลียงเจียเหอ 4 ครั้ง
วันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สี จิ้นผิงตอบจดหมายว่า “ฤดูร้อนปีที่แล้ว เหยียนชวนได้ประสบภัยร้ายแรงจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ข้าพเจ้าคิดถึงชาวบ้านทั้งหลายในหมู่บ้านตลอด” เขายังให้กำลังใจทุกคนว่า “สังคมมั่งคั่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับชาวบ้านเป็นสำคัญ การทำให้บรรดาเพื่อนชาวบ้านในหมู่บ้านได้ใช้ชีวิตมีกินมีใช้โดยเร็ววันพร้อมกับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศนั้น เป็นความปรารถนาที่มีมาโดยตลอดของข้าพเจ้า"
ต่อมาภายหลัง ความผูกพันอันลึกซึ้งต่อชาวบ้านและความปรารถนาอันเรียบง่ายที่จะขจัดความยากจนในวัยหนุ่ม ได้ค่อยๆ กลายมาเป็นภาคปฏิบัติอันน่าตื่นตาตื่นใจแห่งการบรรเทาความยากจนอย่างแม่นยำบนแผ่นดินมาตุภูมิ
หลังจากการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 18 ผ่านไปเพียงเดือนกว่า นายสี จิ้นผิงได้ปรากฏตัวในพื้นที่ลึกของบริเวณเทือกเขาไท่หางซานซึ่งมีอากาศหนาวเหน็บ
วันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สี จิ้นผิงเดินทางไปที่หมู่บ้านลั่วถัววาน ตำบลหลงเฉวียนกวน อำเภอฟู่ผิง มณฑลเหอเป่ย ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในภูเขาลึก เขาเดินเข้าไปในบ้านของถัง จงซิ่ว เพื่อเยี่ยมเยียนและปลอบขวัญครอบครัวที่ยากจน
“พรรคคอมมิวนิสต์จีนพูดคำไหนคำนั้น และย่อมทำได้อย่างแน่นอน”
นายสี จิ้นผิงเคยเดินทางไปยังพื้นที่ยากจนสุดขีดซึ่งมีสภาพความยากจนกระจุกตัวในพื้นที่ติดๆกันเป็นบริเวณกว้าง 14 แห่ง และทุกที่ที่เขาไป เขามักต้องเดินเข้าไปบ้านของผู้ยากจน เพื่อตรวจสอบความจริง ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ รับฟังความคิดเห็น คำนวณบัญชีรายรับและรายจ่ายของชาวบ้าน ตลอดจนหารือกลยุทธ์การบรรเทาความยากจน ต่อหน้าชาวบ้าน สี จิ้นผิงมักจะพูดอย่างถ่อมตนว่า "ข้าพเจ้าเป็นคนรับใช้ของประชาชน"
ความห่วงใยอันลึกซึ้งที่สุด ความมุ่งมั่นตั้งใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ที่สุด
“ข้าพเจ้าเคยกล่าวว่าต้องไม่มีผู้ใดตกขบวนบนหนทางขจัดความยากจน ชาวจีน พรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนพูดคำไหนคำนั้น!”
“ปัจจุบันทั้ง 56 ชนเผ่าทั่วประเทศจีนล้วนหลุดพ้นความยากจนแล้ว เราได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่หนักแน่น แต่เรายังไม่สามารถหยุดฝีก้าวได้ ต่อไปเราต้องก้าวหน้าไปบนหนทางใหม่แห่งการบรรลุเป้าหมายการต่อสู้ “100 ปีประการที่สอง” ต้องไม่มีชนเผ่าใดตกขบวน สู้ต่อไป ใช้ความพยายาม เดินทัพทางไกลอีกครั้ง!”
ขณะตรวจงานที่เขตกวางสีเมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 ปธน.สี จิ้นผิงให้กำลังใจทุกคนฟันฝ่าต่อสู้ต่อไป
YIM/LU