เมื่อเร็วๆนี้ คลิปวิดีโอหลายตอนที่นักบินอวกาศกำลังวัดส่วนสูงในสถานีอวกาศจีนมีชาวเน็ตร่วมแสดงความเห็นมากมาย โดยในคลิป นักบินอวกาศจีนทั้งสามเอาตัวแนบชิดกับเพดานสถานีอวกาศ แล้วให้เพื่อนร่วมงานวัดส่วนสูง ซึ่งเป็นภาพที่แตกต่างกับการวัดส่วนสูงในโลก และเมื่อนักบินอวกาศเป็นวัยผู้ใหญ่ที่ร่างกายได้หยุดการยืดตัวเติบโตแล้ว ทำไมยังต้องวัดส่วนสูง?
นายเย่ กวงฟู่กำลังเอาตัวแนบติดกับเพดานของสถานีอวกาศ ข้างๆคือนางหวัง ย่าผิง
จากคลิปวีดีโอจะเห็นได้ว่า เนื่องจากสภาพไร้น้ำหนักในอวกาศ นักบินอวกาศเลือกสถานที่วัดส่วนสูงอยู่ที่เพดาน พวกเขาเอาหลังแนบติดกับตัวยานอวกาศ แล้วให้เพื่อนร่วมงานใช้สิ่งของเหมือนไม้บรรทัดทาบไว้บนหัว หลักการวัดส่วนสูงไม่ต่างกับในโลก แต่สถานที่ค่อนข้างพิเศษ
นางหวัง ย่าผิงกำลังวัดส่วนสูงบนเพดาน นายเย่ กวงฟู่ให้ความช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ
ในอวกาศกระดูกสันหลังของคนจะยืดกว่าในโลกนิดหน่อย ฉะนั้น ความสูงของนักบินอวกาศก็จะสูงกว่าในโลกเล็กน้อย เป้าหมายการวัดส่วนสูงของนักบินอวกาศ ก็เพื่อรู้ถึงผลกระทบจากสภาพไร้น้ำหนักในอวกาศที่มีต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งผลกระทบไม่เพียงแต่อยู่ที่ร่างกายเท่านั้น จากคลิปวีดีโอเราจะพบว่า ใบหน้าของนักบินอวกาศ 3 คนจะอ้วนกว่าในโลกนิดหน่อย ที่จริงแล้วเรียกว่าอ้วนไม่ถูกต้อง แต่เป็นบวมต่างหาก
ภายใต้สภาพไร้น้ำหนัก ของเหลวในร่างกายกระจายออก จะมีเลือดไหลเข้าสู่หัวมากขึ้น เพราะฉะนั้น หัวของนักบินอวกาศอยู่ภาวะเลือดคั่ง ใบหน้าก็ดูเหมือนบวมน้ำมาก นอกจากนี้ นักบินอวกาศจะรู้สึกคัดจมูกเหมือนเป็นหวัด ก็เนื่องจากภาวะบวมน้ำด้วย
เนื่องจากไม่มีแรงดึงดูดน้ำหนัก การทำงานของหัวใจและปอดของนักบินอวกาศจะค่อยๆเสื่อมสมรรถภาพลง กล้ามเนื้อและกระดูกก็จะเสื่อมสลายลงด้วย
(Yim/Cui/Patt)