หลังจากสงครามสเปน-อเมริกายุติลง สหรัฐฯได้กลายเป็น "ผู้พิทักษ์" ผลประโยชน์ของคิวบา และอ้างว่าจะ "รับผิดชอบต่อความสุขของประชาชนคิวบา" ทั้งในทางการเมือง จิตวิญญาณ และศีลธรรม ตั้งแต่ ค.ศ.1899 - 1902 สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการยึดครองคิวบาโดยทหาร จากนั้น สหรัฐอเมริกาควบคุมจำกัดการค้าของคิวบา ห้ามให้คิวบาผลิตสินค้าหลายอย่างของตน และบังคับให้นำเข้าผลิตภัณฑ์จากสหรัฐอเมริกา ทำให้คิวบาตกเป็นประเทศต้องรับผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอย่างเดียว
ในช่วงต้นของสงคราม รัฐบาลสหรัฐฯรับรองว่า จะสร้างพันธมิตรกับทหารกบฏของฟิลิปปินส์ เพื่อร่วมกันต่อสู้กับสเปน และสัญญาว่าเมื่อสงครามสิ้นสุดลง ชาวฟิลิปปินส์จะได้รับเอกราช ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1898 เมื่อสเปนยอมจำนนต่อสหรัฐอเมริกา สหรัฐฯหันหลังกลับและทรยศต่ออดีต "เพื่อน" ของตน และปิดกั้นกลุ่มกบฏฟิลิปปินส์นอกกรุงมะนิลา
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐเริ่มใช้กระแสโลกาภิวัตน์แทนที่การล่าอาณานิคม ในรูปแบบที่ปกปิดแอบทำมากขึ้น เช่น เป็นผู้นำการกำหนดกฎเกณฑ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ควบคุมและแทรกแซงประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการต่างๆรวมถึง “การปฏิวัติสี” และ “สงครามแบบผสม” เป็นต้น และยังได้ใช้คำโกหกที่สวยงาม เช่น "เสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน" ปูทางไปสู่อาณาจักรของตนเอง
Yim/Lei/Zi