วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุความเห็นพ้องต้องกันหลายประการเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือระหว่างจีน-ฝรั่งเศส โดยได้ชี้แนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ฝรั่งเศส และจีน-สหภาพยุโรปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในอนาคต

ปี 2021 จีน-ฝรั่งเศสได้ร่วมมือกันและร่วมกันใช้ความพยายาม ทำให้การค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศมีมูลค่าเกิน 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จีนนำเข้าสินค้าเกษตรจากฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบแบบรายปี นอกจากนี้ยังได้มีการจัดสัมมนาครั้งแรกระหว่างจีน-ฝรั่งเศสเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการเกษตรตามลำดับ ทั้งยังมีการเผยแพร่เอกสารแนะแนวทางการรวบรวมโครงการห้องปฏิบัติการร่วมตามกำหนด 

ระหว่างการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้ชี้นำความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศสให้ก้าวหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่า ในปีใหม่นี้  จีน-ฝรั่งเศสควรก้าวไปในเส้นทางเชิงบวกที่มั่นคงและสูงขึ้นต่อไป ยึดมั่นในหลักการเคารพซึ่งกันและกัน มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน เสริมสร้างการเจรจาและแลกเปลี่ยนในทุกระดับ เพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนผลักดันให้ความร่วมมือทวิภาคีประสบความสำเร็จมากขึ้น

ด้านประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า สถานการณ์ระหว่างประเทศในขณะนี้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและปั่นป่วน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ฝรั่งเศสยิ่งปรารถนาจะกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมกับจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฝรั่งเศสพอใจกับความสำเร็จในการดำเนินความร่วมมือทวิภาคีกับจีนในด้านต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เช่น เทคโนโลยี การเกษตร การบิน และพลังงานนิวเคลียร์ ฝรั่งเศสพร้อมที่จะทำงานร่วมกับจีน  เพื่อหาทางเอาชนะผลกระทบจากโควิด-19 เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนบุคลากร ส่งเสริมมิตรภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ตลอดจนกระชับความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกันในระดับลึกซึ้ง

ผู้นำทั้งสองประเทศยังได้บรรลุความเห็นพ้องต้องกันหลายประการเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีในขั้นต่อไป ซึ่งครอบคลุมด้านต่าง ๆ รวมถึงเทคโนโลยีการเกษตร การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การธนาคารและการเงิน อุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งความร่วมมือทางตลาดของฝ่ายที่สาม เป็นต้น

การพูดคุยเจรจาทางโทรศัพท์ครั้งนี้ถือเป็นการแลกเปลี่ยนครั้งสำคัญระหว่างผู้นำจีน-ฝรั่งเศส หลังฝรั่งเศสเข้ารับตำแหน่งประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรปเมื่อเดือนที่แล้ว จึงมีความหมายสำคัญยิ่งต่อการผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรป ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงเน้นย้ำหลายครั้งว่า  จีน-สหภาพยุโรปควรส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องของกันและกัน ยึดมั่นในการเคารพซึ่งกันและกัน การเจรจาและความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกัน 

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ชี้ระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า จีน-สหภาพยุโรปควรทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างจุดร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปไปสู่การพัฒนาใหม่

ด้านประธานาธิบดีมาครง กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะใช้ความพยายามเต็มที่ เพื่อผลักดันวาระเชิงบวกระหว่างสหภาพยุโรป-จีน และจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป-จีนให้มีความคืบหน้าต่อไป

เนื่องจากทั้งประชาชนจีนและฝรั่งเศสล้วนมีวิสัยทัศน์ยาวไกล เห็นคุณค่าความเป็นเอกราชและตัวของตัวเอง การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ฝรั่งเศสจึงเกิดขึ้นจากความทะเยอทะยานแรกเริ่มที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเอกราช เป็นตัวของตัวเอง  ความเข้าใจซึ่งกันและกัน การมองการณ์ไกล มีผลประโยชน์ร่วมกัน และมีผลลัพธ์แบบได้ชัยชนะร่วมกัน ขอเพียงทั้งสองประเทศยังคงยึดมั่นในความทะเยอทะยานแรกเริ่ม ยึดมั่นในฉันทามติและมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ความสัมพันธ์จีน-ฝรั่งเศสและความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปก็จะเติบโตอย่างมั่นคง และเติมพลังขับเคลื่อนให้กับการพัฒนาของโลก

(tim/cai)