วันที่ 7 มีนาคม 2018 สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เข้าร่วมการประชุมคณะผู้แทนประชาชนมณฑลกวางตุ้ง ในการประชุมผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ครั้งที่ 13 ชุดที่ 1 หมี เสวี่ยเหมย ผู้แทนจากบริษัทผลิตเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในเมืองจงซาน บอกกับสี จิ้นผิงเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของเธอที่มีทั้งทุกข์และสุขในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา
ค.ศ. 1997 หมี เสวี่ยเหมย ในวัย 22 ปี เดินทางมายังมณฑลกวางตุ้งจากหมู่บ้านยากจนในมณฑลกานซู่เพื่อทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงงานผลิตเสื้อผ้า แต่เธอแอบไปเรียนหลายอย่างในโรงงานเพื่อ "หางานทำและเรียนรู้มากขึ้น"
ด้วยความขยันหมั่นเพียรและกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้ของเธอ หมี เสวี่ยเหมยจึงได้งานเป็นพนักงานฝ่ายบัญชี ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน และหัวหน้างานด้านคุณภาพ ไม่ว่าจะเหนื่อยเพียงไรเธอก็ไม่กลัวเพียงแต่ห่วงปัญหาลูกที่ป่วยอยู่ในบ้านเกิด เธอจึงตัดสินใจไปรับลูกมาอยู่จงซานแต่เนื่องจากยุ่งเกินไปบางครั้งเธอจึงลืมไปรับลูกจากโรงเรียน
ปัจจุบันครอบครัวของหมี เสวี่ยเหมยได้ซื้อบ้านในเมืองจงซานแล้วและกลายเป็น "คนในเมือง" อย่างแท้จริง ลูกของเธอได้กลายเป็นผู้รับผลประโยชน์กลุ่มแรกจากนโยบายรับเข้าเรียนสำหรับเด็กที่ย้ายมาอยู่กับพนักงานต่างถิ่น และประสบความสำเร็จในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
หมี เสวี่ยเหมย เล่าว่า "ในการประชุมคณะผู้แทนประชาชนที่จัดขึ้นในวันนั้น เลขาธิการใหญ่ได้ทักทายเราทันทีหลังจากที่เขาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่สนิทสนมมาก เมื่อดิฉันกล่าวปราศรัยฉันเห็นได้ว่าท่านเลขาธิการใหญ่รับฟังอย่างระมัดระวัง ดังนั้นดิฉันจึงไม่เครียดแล้ว"
วันเดียวกันนั้นหมี เสวี่ยเหมยกล่าวถึงข้อเสนอจากประสบการณ์ชีวิตและการวิจัยของเธอเอง เธอหวังว่า รัฐบาลทุกระดับจะเพิ่มการลงทุนด้านการศึกษาต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกของแรงงานที่มาทำงานในเมือง เด็กเหล่านี้สามารถไปโรงเรียนข้างพ่อแม่เพื่อให้พวกเขาอยู่กับพ่อแม่ได้อย่างมีความสุข
หลังจากฟังคำพูดของหมี เสวี่ยเหมยแล้ว นายสี จิ้นผิงก็พูดกับเธอว่า "คุณพูดได้ดีมากครับ ประสบการณ์ของเธอเหมือนกับชื่อของเธอ 'หมี เสวี่ยเหมย' กลิ่นหอมของดอกเหมย มาจากความหนาวเย็นและความยากลำบาก"
คำพูดของสี จิ้นผิงทำให้หมี เสวี่ยเหมยรู้สึกอบอุ่นมาก เธอรู้สึกว่า นี่เป็นความเอาใจใส่และการยกย่องจากเลขาธิการใหญ่ฯ ที่มีต่อแรงงานชนบทที่เข้ามาทำงานในเมืองหลาย ๆ คนเช่นเธอ
ระหว่างการประชุมครั้งนั้นสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า "พรรคคอมมิวนิสต์แสวงหาความสุขเพื่อประชาชน เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนรู้สึกไม่มีความสุข ไม่ดีใจ หรือ ไม่พอใจ พวกเราควรทำงานหนักในด้านนั้น ใช้ความพยายามทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาของพวกเขา"
สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า "ขณะนี้เราส่งเสริมการกลายเป็นเมืองและต้องให้แรงงานชนบทที่เข้ามาทำงานในเมืองนับพันนับล้านคนสามารถทำงานและใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างมั่นคง ให้ลูกของพวกเขามาพร้อมพ่อแม่ด้วยอย่าตกเป็นเด็กที่ต้องอยู่บ้านเกิดคนเดียว"
หมี เสวี่ยเหมย กล่าวว่า คำสั่งของเลขาธิการใหญ่ฯ ได้กลายเป็นปฏิบัติการที่แท้จริงในพื้นที่ต่าง ๆ ในปี 2021 เมืองจงซานที่เธอทำงานนั้นมีลูกของแรงงานต่างถิ่นเข้าในโรงเรียนของรัฐแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังจุดรับพัสดุส่งด่วน เพื่อเยี่ยมพนักงานส่งด่วน ถามถึงสภาพการทำงานและความเป็นอยู่ของพวกเขา หรือไปอวยพรปีใหม่แก่พนักงานทำความสะอาดเมือง หรือจะในพื้นที่ก่อสร้าง นายสี จิ้นผิงต่างได้พูดคุยกับพนักงานต่างถิ่นอย่างใกล้ชิด
ถ้าอ่านจากข่าวมักจะทราบว่าเลขาธิการใหญ่ชอบอยู่กับพนักงานฯ หมี เสวี่ยเหมยและเพื่อนร่วมงานชอบกล่าวถึงว่า “ในใจเขามีพนักงานที่เข้ามาทำงานในเมือง”
วันที่ 24 ตุลาคม 2018 สี จิ้นผิงไปตรวจเยี่ยมเมืองเซินเจิ้น หมี เสวี่ยเหมยได้พบกับเลขาธิการใหญ่ฯ อีกครั้ง
“เวลาผ่านไปครึ่งปีแล้ว เลขาธิการฯ ยังจำดิฉันได้ ท่านได้จับมือดิฉันและถามดิฉันเกี่ยวกับสภาพการทำงาน” หมี เสวี่ยเหม่ยจึงได้รายงานสภาพงานในปัจจุบันของเธอด้วยความประทับใจ
หมี เสวี่ยเหมย กล่าวว่า "ดิฉันต้องทำงานให้ดีและสร้างผลงานมากยิ่งขึ้นเพื่อจะไม่ทำให้ท่านเลขาธิการใหญ่ผิดหวัง!"
Tim/Lei/Lu