นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ทำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลจีนต่อการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 13 ครั้งที่ 5 โดยกล่าวเป็นพิเศษว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหรือ RCEP ได้กลายเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก สนับสนุนวิสาหกิจใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรและกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน นายหยาง เฉิงจ่าง สมาชิกสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน นักเศรษฐศาสตร์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวไชน่ามีเดียกรุ๊ปว่า ตั้งแต่ RCEP มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคมปีนี้เป็นต้นมา ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเห็นได้ชัด
RCEP ได้ครอบคลุม 10 ประเทศในอาเซียนและจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์รวม 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยประเทศที่ให้สัตยาบันความตกลงมีผลบังคับใช้เป็นงวดแรกมีบรูไน กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม 6 ประเทศอาเซียนและจีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย 4 ประเทศ
หยาง เฉิงจ่างกล่าวว่า ตั้งแต่ RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว ได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของจีนมากมายโดยเฉพาะได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการปฏิสัมพันธ์กับโครงสร้างอุตสาหกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเห็นได้ชัด อาทิ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและของเล่น นอกจากนี้ RCEP มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการกระจายห่วงโซ่อุตสาหกรรมในเวียดนาม และจีน
ตามสถิติของสำนักงานใหญ่ศุลกากรจีนพบว่า สองเดือนแรกปีนี้ ยอดการนำเข้าและส่งออกระหว่างจีนกับคู่ค้า RCEP อยู่ที่ 1.85 ล้าน ๆ ดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ในจำนวนนี้ ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนอยู่ที่ 870,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 นายหยาง เฉิงจ่าง ระบุว่า หลายปีมานี้ การค้าระหว่างจีนกับอาเซียนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง RCEP ช่วยให้เสริมแกร่งห่วงโซ่อุตสาหกรรมระหว่างจีนกับประเทศอาเซียน
เขากล่าวว่า จีนมีตลาดใหญ่มาก มีระบบอุตสาหกรรมและระบบผลผลิตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ปัจจุบันมีศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ แต่ต้นทุนการผลิตค่านข้างสูง ยากที่จะลดต้นทุนในกระบวนการผลิต ฉะนั้น จีนกับประเทศอาเซียนควรมีการกระจายห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างมีเหตุมีผล จนมีความสัมพันธ์ที่อุดหนุนซึ่งกันและกัน จะเพิ่มความร่วมมือด้านการผลิตส่วนภูมิภาคเป็นอย่างมาก
หลังจากใช้ความพยายามมาเกือบ 20 ปี การค้าเสรีของจีนขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ จีนได้ลงนามความตกลงการค้าเสรี 19 ฉบับกับ 26 ประเทศและเขตแคว้น หุ้นส่วนการค้าเสรีได้ครอบคลุมทวีปเอเชีย โอเชียเนีย ลาตินอเมริกา ยุโรปและแอฟริกา ปัจจุบัน จีนกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ยกระดับเขตการค้าเสรี กำลังผลักดันยกระดับความตกลงการค้าเสรีซึ่งรวมทั้งเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเวอร์ชัน 3.0 ด้วย นายหยาง เฉิงจ่างเห็นว่า ความสัมพันธ์จีน-อาเซียนมีความคาดหวังที่จะลงลึกอีกบนพื้นฐาน RCEP
เขากล่าวว่า ในเมื่อก่อน การค้าส่วนใหญ่ของจีนเกี่ยวข้องกับการค้าสินค้า การค้าภาคบริการ สองปีมานี้ ได้ขยายความร่วมมือด้านการค้าดิจิทัล การค้าเทคนิค เป็นต้น รูปแบบการค้ามีการยกระดับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลายปีมานี้ จีนได้นำเสนอการเปิดประเทศอย่างเป็นระบบ กระชับความร่วมมือกับประเทศใกลเคียงอย่างลุ่มลึก เรื่องนี้จะแสดงบทบาทสำคัญต่อการลงลึกและยกระดับการค้า และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของการค้า การลงทุนและการเงินระหว่างจีนกับภูมิภาคอาเซียน
นายหยาง เฉิงจ่างยังได้กล่าวถึงผลกระทบเชิงบวกจาก RCEP ที่มีต่อระบบการค้าโลก เขาเห็นว่า พร้อมไปกับการปรับโครงสร้างการบริหารและระบบการบริหารทั่วโลกรอบใหม่ การกำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าทั่วโลกกำลังยกระดับอีก การลงลึกความร่วมมือด้านการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนมีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าพหุภาคีที่มีระดับสูงขึ้นอย่างเป็นเอกภาพทั่วโลก
เขียนโดย ชุย อี๋เหมิง ภาคภาษาไทย สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)