การช็อปออนไลน์ช่วยประหยัดเงินได้จริงหรือไม่ ครึ่งปีก่อนสาวจีนแซ่เจ้า วัย 20 ปี ตัดสินใจใช้ชีวิตงดสั่งซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ตนเองใช้เงินอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น
คุณเจ้าเป็นนักศึกษาปี 2 มหาวิทยาลัยครูหวาจงของจีน เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่เธอเคยสั่งซื้อของใช้ประจำวันทุกอย่างผ่านเน็ต เคยซื้อลิปสติกกว่า 20 ด้ามภายในเวลาเดือนเดียว เคยซื้อเสื้อราคาถูกกว่าร้านออฟไลน์ 100 หยวน เคยซื้อครีมอาบน้ำและน้ำยาสระผมทั้งกล่องใหญ่เพื่อให้ได้โปรโมชั่น เธอเองก็คิดว่าคงไม่ต้องซื้ออะไรอีกก่อนเรียนจบแล้วก็ได้
คุณเจ้าชอบซื้อของออนไลน์และเทียบราคาไปด้วย เธอมักหาร้านถูกที่สุด จนมาวันหนึ่งเธอจึงเรียนรู้ว่าในด้านจิตวิทยาแนวคิดแบบนี้เรียกว่า “แนวคิดเพื่อผลประโยชน์” หวังที่จะซื้อของจำนวนมากด้วยเงินที่น้อยกว่า ซึ่งเน้นราคาถูกเป็นหลัก
นอกจากนี้การซื้อของออนไลน์ยังทำให้คุณเจ้าหลงใหลไปกับบรรยากาศชีวิตที่ดีงาม หรูหรา และไม่เหมือนใคร เหมือนกับว่าหากซื้อของเหล่านี้แล้วก็จะดีงามเหมือนนางแบบในโฆษณา ดังนั้นเธอจึงซื้อของมากเกินความต้องการ เช่น น้ำหอม สร้อยคอ ต่างหู ถ้วย แก้ว หลากหลายรายการ เสียเงินลงทุนไปมากมาย แต่ทุกครั้งที่ได้ของมาเธอมักพบว่า จริง ๆ แล้วของเหล่านี้กลับไม่เหมาะกับตนเอง
เธอบอกว่า เวลาสั่งเธอรู้สึกดีจริง ๆ แต่พอได้ของที่ไม่เหมาะ เธอกลับตกอยู่ในภาวะลังเลว่าจะส่งคืนไปดีหรือไม่
อีกคำถามหนึ่งที่คุณเจ้าถามตัวเอง คือ การซื้อของออนไลน์ช่วยประหยัดเงินได้จริง ๆ หรือไม่ เธอพบว่าการซื้อของออนไลน์มักทำให้เธอสั่งซื้อโดยไม่รู้ตัว เช่น ลิปสติก เธอซื้อมามากมายแต่ใช้จริงแค่ไม่กี่ด้าม เสื้อผ้าก็เช่นกัน จึงทำให้เธอรู้สึกว่า ดูเหมือนซื้อของถูกแต่จริง ๆ เสียเงินแล้วเป็นอีกแบบหนึ่ง
พอขึ้นปี 2 คุณเจ้าจึงลบแอปพลิเคชันซื้อของในมือถือ ส่วนของที่ซื้อมาเธอได้บริจาคไปบ้างทิ้งไปแล้วบ้าง
ปัจจุบันเธอซื้อของใช้ประจำวันตามซูเปอร์มาเก็ตในมหาวิทยาลัย หากต้องการซื้อเสื้อผ้าใหม่เธอจะจัดตารางก่อนแล้วไปซื้อที่ห้าง “ปฏิบัติตามความต้องการในใจและในชีวิต ใช้ชีวิตอย่างไม่เสียของ” เป็นมาตราฐานการซื้อสินค้าของเธอในปัจจุบัน แต่ละเดือนคุณเจ้ามีเงินใช้ประจำวัน 1,800 หยวน แต่ก่อนมักใช้หมดทุกเดือนแต่ตอนนี้เธอมีเงินเหลือเก็บ 200 - 300 หยวนต่อเดือน
เช่นเดียวกับคุณเจ้าวัยรุ่นบางส่วนในจีนยังเริ่มปฏิเสธการบริโภคอย่างไม่จำกัด ซึ่งเน้นความต้องการและคัดค้านการซื้อตามกระแสโดยไม่คิดให้ดี ชาวเน็ตจะวิจัยและคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังพร้อมแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาของตนด้วย เช่น ยกเลิกการติดตามบัญชีขายของ และเปลี่ยนสีธีมแอปซื้อของให้เป็นสีเขียวตามหลักจิตวิทยาเพื่อลดความอยากซื้อ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามคุณเจ้าเน้นว่า เธอไม่ได้ปฏิเสธการซื้อของออนไลน์ หากแต่ปฏิเสธความต้องการที่เกินควร เธอบอกว่า การลองไม่ซื้อของออนไลน์นั้นนอกจากช่วยเธอประหยัดเงินแล้ว ยังช่วยให้เธอมุ่งมั่นในการเรียนและใช้ชีวิตมากขึ้น โดยไม่แบ่งใจหรือแบ่งเวลาไปกับเรื่องซื้อของ ทำให้รู้สึกควบคุมชีวิตตัวเองได้ดีขึ้น มีเวลาพัฒนาตนเองมากขึ้น และเน้นการรู้สึกพอเพียงในใจมากขึ้นด้วย