ก่อนสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน สังคมทิเบตเป็นสังคมทาสกสิกรในระบอบศักดินา อยู่ภายใต้การปกครองของเจ้าทาสและพระ ซึ่งมีจำนวนเพียงร้อยละ 5 ของประชากรในทิเบตเท่านั้น แต่กลับได้ควบคุมวัตถุดิบในการผลิตทุกอย่าง ประชาชนชั้นล่างมีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1959 รัฐบาลกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกคำสั่งให้ดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยในทิเบต โดยได้ล้มล้างระบอบทาสกสิกรศักดินา ทำให้ทาสกสิกรในทิเบตได้รับการปลดปล่อย และกลายเป็นเจ้าของทิเบต
หลายคนถามว่า ปัจจุบัน ทิเบตมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือไม่? ทางการท้องถิ่นเคารพและปกป้องเสรีภาพในการนับถือศาสนาอย่างไร? เราไปหาคำตอบจากสถาบันพุทธศาสนาทิเบต
สถาบันพุทธศาสนาทิเบตตั้งอยู่ในอำเภอฉีว์สุ่ย เมืองลาซ่า เขตปกครองตนเองทิเบตของจีน เป็นสถาบันพุทธศาสนานิกายทิเบตระดับสูงแห่งแรกในทิเบต สถาบันพุทธศาสนาทิเบตได้นำรูปแบบการเรียนการสอนของสถาบันพุทธศาสนาระดับสูงในภาษาทิเบตของจีนมาใช้ โดยมีการผสมผสานรูปแบบการศึกษาในสมัยใหม่เข้ากับรูปแบบการศึกษาแบบดั้งเดิม และมีการจัดตั้ง 3 คณะเป็นครั้งแรก ได้แก่ คณะนิกายเซน(เสี่ยมจง) คณะนิกายมนตรยาน(มิกจง) และคณะพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่(Living Buddha)
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สถาบันพุทธศาสนาทิเบตได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีการจัดตั้งสถาบันแห่งนี้ Zhukang Tudeng Kezhu อธิการบดีสถาบันพุทธศาสนาทิเบตกล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สถาบันพุทธศาสนาทิเบตได้อบรมบ่มเพาะนักเรียนนักศึกษามากกว่า 1,300 คน และพระภิกษุภิกษุณี 2,640 รูป
สิ่งที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ ตั้งแต่ค.ศ. 2015 สถาบันพุทธศาสนาทิเบตได้เปิดชั้นเรียนสำหรับพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่วัยเยาว์ โดยเฉพาะ เพื่อให้การศึกษาภาคบังคับ 9 ปีและหลักสูตรทางศาสนาตามประเพณีสำหรับพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี โดยมีการสอนภาษาจีนกลาง คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ เป็นต้น ในชั้นประถมและมัธยมต้น การสอนความรู้วัฒนธรรมพื้นฐานและทฤษฎีทางพุทธศาสนาเป็นไปตามอัตราส่วน 8:2 และ 7:3 ตามลำดับ ชั้นมัธยมต้นสำหรับพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่ปีแรกรับนักเรียน 6 คน นักเรียนดังกล่าวได้สำเร็จการศึกษาในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 แล้ว ปัจจุบัน ในชั้นเรียนสำหรับพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่วัยเยาว์ มีนักเรียน 9 คน
ข้อมูลด้านต่างๆพิสูจน์ให้เห็นว่า เสรีภาพในการนับถือศาสนาในทิเบตได้รับการประกันอย่างเต็มที่
ในทิเบต ทุกศาสนาและนิกายของศาสนามีความเท่าเทียมกัน ผู้ที่นับถือศาสนาและผู้ที่ไม่นับถือศาสนาได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ปัจจุบัน ในทิเบตมีสถานที่สำหรับประกอบกิจกรรมทางศาสนาพุทธนิกายทิเบตมากกว่า 1,700 แห่ง มีพระภิกษุและภิกษุณี ประมาณ 46,000 รูป มีมัสยิด 4 แห่ง มีชาวมุสลิมมากกว่า 12,000 คน นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์คาทอลิก 1 แห่ง และมีผู้ศรัทธามากกว่า 700 คน
ทิเบตมีการกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการกำกับดูแลพระลามะที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ในพุทธศาสนานิกายทิเบต ตาม “ระเบียบว่าด้วยกิจการทางศาสนา” อีกทั้งยังได้กำหนดนโยบายและมาตรฐานต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม“ระเบียบว่าด้วยกิจการทางศาสนา” ในเขตปกครองตนเองทิเบต ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินกิจการทางศาสนาในจีนมีความเป็นจีน ปกป้องเสรีภาพและระเบียบในการนับถือศาสนาอย่างแท้จริง และกำกับดูแลกิจการทางศาสนาให้เป็นไปตามระบบกฎหมาย
ปัจจุบัน มีพระภิกษุและภิกษุณีมากกว่า 3,000 รูปศึกษาอยู่ในสถาบันพุทธศาสนาทิเบตและสาขา 10 แห่ง โรงพิมพ์พระคัมภีร์แบบดั้งเดิมของวัดได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา ปัจจุบัน ในทิเบตมีโรงพิมพ์พระคัมภีร์แบบดั้งเดิมขนาดใหญ่ 3 แห่ง เช่น โรงพิมพ์พระคัมภีร์ของวังโปตาลา
ปัจจุบัน ในสภาผู้แทนประชาชนและสภาปรึกษาการเมืองระดับต่างๆของจีน มีผู้แทนและกรรมการที่มาจากวงการศาสนารวมกว่า 600 คน
(yim/cai)