เมื่อไม่นานนี้ โครงการศูนย์ข้อมูลซานเสีย เยวี่ยเมี่ยว ในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย ระยะที่หนึ่ง ได้สร้างเสร็จและเริ่มเปิดใช้งานแล้ว
ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ มีเนื้อที่ 100,000 ตารางเมตร โดยวางแผนจะติดตั้งตัวเครื่องกักเก็บข้อมูลทั้งหมดรวม 26,400 เครื่อง และจะแบ่งโครงการออกเป็นสามระยะด้วยกัน ซึ่งจะเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดคาร์บอนแห่งแรกของจีน โครงการระยะแรกนั้นใช้เงินทุนถึง 845 ล้านหยวน (ประมาณ 4,465 ล้านบาท) โดยจะสร้างเครื่องเก็บข้อมูล 4,400 เครื่อง ซึ่งจะใช้ไฟฟ้าปีละกว่า 200 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ไฟฟ้าที่ใช้นั้นเป็นไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากเขื่อนซานเสีย หรือ “เขื่อนสามผา” นั่นเอง และจะใช้ระบบลดอุณหภูมิที่ใช้ความเย็นจากน้ำในแม่น้ำ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานเป็นอย่างมากและยังเพิ่มประสิทธิภาพของพลังงานไปพร้อมกัน ถือเป็นศูนย์ข้อมูลที่ใช้การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไร้คาร์บอนอย่างแท้จริง
ในปีนี้ ประเทศจีนได้ริเริ่มโครงการ “ข้อมูลตะวันตก ประมวลผลตะวันออก” ศูนย์ข้อมูลซานเสีย เยวี่ยเมี่ยวนั้น ตั้งอยู่ในภาคกลางของจีน เหมาะแก่การใช้เป็นจุดรวบรวมและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยต่าง ๆ สามารถลดความล่าช้าของข้อมูล ลดต้นทุนในการส่งข้อมูล และใช้พลังงานสะอาดอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ยังรับประกันได้ว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะมีพลังงานที่มีความน่าเชื่อถือไว้ใช้อย่างเพียงพอ
ไตรมาสแรกของปีนี้ ประเทศจีนมียอดการผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานใหม่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.4 เท่า และก็กำลังเร่งก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์เหล่านี้เช่นกัน จวบจนปัจจุบัน ประเทศจีนมีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่รวม 1,451 แห่ง ตามเมืองและมณฑลต่าง ๆ เช่นปักกิ่ง กวางตุ้ง เจียงซู เซี่ยงไฮ้ ฯลฯ ต่างก็มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มากกว่า 100 แห่งแล้ว
ทางด่วนในกรุงปักกิ่งทั้งในเขตเมือง ชานเมืองและพื้นที่รายทางด่วนต่างก็สร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่เอาไว้ เจ้าของรถยนต์พลังงานใหม่รายหนึ่งเผยว่า ตอนที่เพิ่งซื้อรถพลังงานใหม่มานั้น ปักกิ่งยังไม่มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่ว่าตอนนี้ ไม่ว่าไปที่ไหน ก็จะค้นหาสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่ยากนัก
ผู่ หยาง ผู้จัดการทั่วไปเขตปักกิ่งของบริษัท NIO เผยว่า เมื่อหนึ่งปีก่อน NIO ได้ร่วมมือกับบริษัท Sinopec ในการสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ 71 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในแต่ละสถานีสามารถให้บริการผู้ใช้รถได้วันละกว่า 300 ราย
นอกจากนี้ บริษัทจีนยังเร่งสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับแท็กซี่พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะอีกด้วย ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อัลตัน นิวเอเนอร์จี ออโตโมทีฟ เทคโนโลยี (Aulton New Energy Automotive technology Co.,Ltd.) กล่าวว่า จำนวนของรถยนต์พลังงานใหม่และสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่จะต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม อย่างเช่นที่ปักกิ่ง ที่เตรียมนำรถแท็กซี่พลังงานไฟฟ้ากว่า 50,000 คันมาใช้งานภายในสิ้นปีนี้ ก็จะต้องสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่มากกว่า 230 แห่ง