กุ้ยหยางเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของจีน คำว่า "กุ้ยหยางหลากหลายสีสัน มนต์เสน่ห์แห่งกุ้ยหยาง เมืองแห่งป่าไม้ และเมืองตากอากาศ" ได้สรุปเอกลักษณ์สำคัญของเมืองนี้ไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอากาศที่ร่มรื่นเย็นสบายของที่นี่ ช่วงหน้าร้อนพอมาถึงเมืองกุ้ยหยาง จะรู้สึกสัมผัสได้ถึงอากาศที่แสนสดชื่นเย็นสบาย และได้ยินเสียงร้องของวิหคนกกา ได้ทัศนาต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่ม
นายเก่อ หยู่ว์จิง รองผู้อำนวยการกรมการท่องเที่ยวเมืองกุ้ย หยางกล่าวว่า
"ปี 2009 กุ้ยหยางได้รับเลือกเป็นเมืองตากอากาศ 10 อันดับแรกของโลก ซึ่งเป็นเมืองเพียงแห่งเดียวของจีนที่ได้เกียรติี้นี้ นอกจากนี้ ในการจัดลำดับเมืองตากอากาศของจีน เมืองกุ้ยหยางก็ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ต่อเนื่องกันมา 5 ปีแล้ว ถ้าถามว่า เมืองกุ้ยหยางมีข้อแตกต่างอะไรบ้างกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ สิ่งแรกเลยก็คือ สภาพดินฟ้าอากาศของเมืองนี้ "
ภูมิประเทศที่มีเอกลักษณ์ก็เป็นลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของเมืองกุ้ยหยาง อย่างเช่น อุทยานเทียนเหอถัน ที่อยู่ห่างจากเมืองกุ้ยหยางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 22 กิโลเมตร มีภูมิประเทศแบบถ้ำหินคาสต์ (Karst landform) และทัศนียภาพที่มีเอกลักษณ์นี้ได้ให้จินตนาการแก่คนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ พวกเขาแต่งเรื่องราวต่างๆ ที่จับใจผู้ชมตามรูปลักษณ์ของถ้ำแต่ละแห่ง และหินงอกหินย้อยแต่ละก้อน เรื่องราวเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่ลี้ลับอย่างมีชีวิตชีวายิ่งแก่นักท่องเที่ยว
วัดหงฝูที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1672 เป็นโบราณสถานที่มีชื่อเสียงของเมืองกุ้ยหยาง เมื่อ 340 ปีก่อนนั้นตรงกับช่วงรัชสมัยคางซีของราชวงศ์ชิง พระสงฆ์รูปหนึ่งชื่อ "ชื่อซง"จาริกมาถึงเมืองนี้แล้วพบว่า บริเวณป่าอันหนาทึบของภูเขาเฉียนหลิง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกุ้ยหยางเหมาะสำหรับสร้างวัด จึงไปเรี่ยรายเงินมาสร้างวัดหงฝูขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ ต่อมาไม่นาน วัดหงฝูก็สร้างชื่อเสียงขจรไปไกล จนกลายเป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงทั้งในมณฑลกุ้ยโจว และทั่วประเทศจีน
อุทยานเฉียนหลิงซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกุ้ยหยาง สร้างขึ้นเมื่อปี 1957 ขึ้นชื่อด้วยภูเขาเขียวขจี น้ำใสสะอาด ป่าไม้แน่นขนัด น้ำพุศักดิ์สิทธิ และมีลิงแสนรู้ ในฤดูหนาวที่นี่ไม่หนาวจัด หน้าร้อนก็ไม่ร้อนจัด จนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมจากชาวท้องถิ่น สวี หย่งเหมย พนักงานผู้บรรยายของอุทยานกล่าวว่า เธอดีใจที่ได้ทำงานที่นี่
"โชคดีจริงๆที่ได้ทำงานที่นี่ เพราะว่าทำงานที่อุทยานไปตลอดจะทำให้อายุยืน มีพนักงานคนเก่าแก่คนหนึ่ง อาศัยอยู่ในหอพักที่ตั้งอยู่ในอุทยาน ตอนนี้อายุมากกว่า 100 ปีแล้ว สุขภาพยังแข็งแรงอยู่เลย"
รอบๆ เมืองกุ้ยหยางมีอุทยานระดับชาติ 8 แห่งและระดับมณฑล 24 แห่งกระจัดกระจายอยู่ อย่างเช่น ทะเลสาบหงเฟิงหู น้ำตกหวงกั่วซู่ ถ้ำจื๋อจิน เป็นต้น น้ำตกหวงกั่วซู่นับเป็นสถานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน และเป็นน้ำตกแห่งเดียวในโลกที่เราสามารถเข้าไปยืนอยู่หลังม่านน้ำตกและ ยื่นมือสัมผัสกับสายน้ำที่หลั่งไหลลงมาได้
น้ำตกหวงกั่วซู่มีความสูงถึง 74 เมตร เท่ากับตึกสูงประมาณ 20 ชั้น น้ำไหลเชี่ยวกรากลงสู่สระน้ำซีหนิวที่อยู่ใต้หน้าผา เหมือนกับคลื่นแม่น้ำและทะเล กระทบกับก้อนหินเสียงดังกึกก้อง บริเวณรอบข้างน้ำตกมี ไอหมอกที่มีแสงสีเรืองรองล่องลอยอยู่ตลอดปี แม้ยืนอยู่ในบริเวณที่ห่างไกลน้ำตกถึง 50-60 เมตร เสื้อผ้าก็ยังจะถูกละอองน้ำกระเซ็นมาจนเปียกได้
แม้น้ำตกหวงกั่วซู่จะมีปริมาณน้ำและขนาดน้อยกว่าหรือเล็กกว่า น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของโลกก็ตาม แต่ที่นี่มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในถ้ำ เพื่อชมน้ำตกจากด้านหลังได้ ถ้ำนี้ตั้งอยู่พอดีกับระดับกลางๆของน้ำตก มีความยาวทั้งหมดกว่า100เมตรและคู่ขนานไปกับน้ำตก ภายในถ้ำมีช่องหน้าต่าง 6 ช่องที่สามารถมองออกไปข้างนอกได้ ไม่เพียงแต่มองเห็นน้ำตกที่ไหลเชี่ยวลงสู่พื้นที่ข้างล่างอย่างใกล้ชิด จากด้านหลังม่านน้ำตกเท่านั้น ยังเอามือไปสัมผัสสายน้ำได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หาดูได้ยากของโลก หากท่านผู้ฟังเคยดูละครโทรทัศน์ของจีนเรื่อง "ไซอิ๋ว" คงจะประทับใจความงามของน้ำตกที่ปรากฏในละคร ซึ่งนั่นก็คือน้ำตกหวงกั่วซู่นี่เองค่ะ
บนฟ้ามีสวรรค์ บนดินมีซูโจวและหางโจว แต่หากพูดถึงอากาศที่เย็นสบายสดชื่นตลอดปี ต้องที่กุ้ยหยางค่ะ ที่นี่คอยต้อนรับทุกท่านอยู่เสมอนะคะ
