ในกรุงปักกิ่งถ้าอยากรับประทานอาหารพื้นเมืองอินโดนีเซีย ก็ต้องไปร้าน"ชวากับย่างกุ้ง"ซึ่งเป็นร้านอาหารแห่งเดียวที่ทําอาหารอินโดนีเซีย ร้าน"ชวากับย่างกุ้ง"เป็นร้านอาหารที่มีการตกแต่งด้วยลักษณะศิลปวัฒนธรรมผสมกลมกลืนระหว่างอินโดนีเซียกับพม่า ลูกค้าที่ย่างก้าวเข้าร้านนี้ส่วนใหญ่จะประทับใจตั้งแต่การตกแต่งที่พิเศษด้วยสไตล์อินโดนีเซียกับพม่า และมักจะตื่นเต้นกับการทายว่าภาพวาดสีนํ้ามันกับไม้แกะสลักเป็นฝีมือศิลปะของอินโดนีเซียหรือเป็นพม่า
ถึงแม้ว่าร้านนี้ไม่ได้ขายเฉพาะอาหารอินโดนีเซีย แต่เนื่องจากได้เชิญพ่อครัวชาวอินโดนีเซียมาเป็นผู้ปรุงอาหาร อาหารอินโดนีเซียในร้านนี้จึงมีรสชาติพื้นเมืองอินโดนีเซียอย่างแท้จริง นายเฮนดรี โซฟิอาร์(Hendri Sofiar)ได้กล่าวถึงประสบการณ์ที่เป็นพ่อครัวในกรุงปักกิ่งว่า
"ผมเคยทํางานในห้องครัวของโรงแรมคาร์ทีคา จันตรา(Kartika Chandra)ของกรุงจาการ์ตาเป็นเวลาสองปี แล้วมาทํางานในกรุงปักกิ่ง มาถึงปักกิ่งผมได้ทํางานในสถานทูตอินโดนีเซียประจําจีนเป็นเวลาหนึ่งปี แล้วเพื่อนที่ทํางานในสถานทูตบอกให้ผมทราบว่ามีร้านขายอาหารอินโดนีเซียกับพม่ากําลังต้องการพ่อครัว โดยเฉพาะพ่อครัวที่ทําอาหารอินโดนีเซีย ฉะนั้นผมจึึงมาสมัครงานที่ร้านนี้ ปัจุบันทํางานอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว"
นาย Hendri Sofiar กล่าวอย่างมั่นใจว่าอาหารอินโดนีเซียที่มีอยู่ในเมนูเขาทําได้อร่อยทุกอย่าง เช่นเนื้ออกไก่มะพร้าว (Opor Ayam)และไข่ไก่เต้าหู้กะหรี่(Gulai Tahu and Telur)เป็นต้น เนื่องจากเขามาจากเมืองปาดัง(Padang)ของอินโดนีเซีย อาหารอินโดนีเซียที่เขาถนัดที่สุดก็คือเนื้อวัวเรนดัง (Beef Rendang)ซึ่งเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของเมืองปาดัง อาหารชนิดนี้เพียงเครื่องปรุงก็ต้องใช้สิบกว่าอย่าง มีรสชาติเผ็ดและหวาน มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
เมื่อกล่าวถึงอาหารปาดังท่านผู้ฟังคงทราบกันดีอยู่ อาหารปาดังเกิดขึ้นที่ปาดังเมืองเอกของจังหวัดซูมาเดรา มีรสชาติเผ็ดและหอมด้วยกลิ่มมะพร้าว เป็นที่นิยมกันมากในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเปิดร้านขายอาหารอินโดนีเซียในปักกิ่งแล้ว ก็กลายเป็นที่นิยมของชาวปักกิ่ง นายสื่อ ยุ่ยเจี๋ย ที่ทํางานในบริษัทอีริคสัน(Ericsson)กล่าวว่า
"ผมเคยไปทํางานที่กรุงจาการ์ตาเป็นเวลาสามเดือนในปี 2006 ในเวลานั้นเคยไปชิมอาหารอินโดนีเซีย หลังจากกลับถึงกรุงปักกิ่งแล้วได้ยินจากเพื่อนว่ามีร้านขายอาหารพื้นเมืองอินโดนีเซีย พ่อครัวก็เชิญมาจากอินโดนีเซีย ผมก็พาภรรยามารับประทานที่นี่ รู้สึกอาหารที่นี่อร่อยมาก มีลักษณะพิเศษ"
หลังจากคุยกับลูกค้าที่รับประทานอาหารในร้านแล้วเราได้ทราบว่า ลูกค้าที่มารับประทานอาหารอินโดนีเซียส่วนใหญ่รู้จักร้านนี้จากเพื่อนๆหรือจากเว๊บไซต์ที่แนะนําอาหาร เนื่องจากร้านนี้ตั้งอยู่ในเขตสถานทูตที่อยู่ใจกลางของปักกิ่ง ด้วยเหตุนี้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารนอกจากชาวจีนแล้ว มีชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ พนักงานเสิร์ฟ Anny เล่าว่า"ร้านนี้มีลูกค้ามากมาย มีนักศึกษาอินโดนีเซียและฝรั่งเศสจํานวนมากมารับประทานในร้านนี้ เมื่อวานมีลูกค้า 15 คนมาจัดงานวันเกิดที่นี่ แล้ววันนี้ก็จะมีนักศึกษาอินโดนีเซีย 22 คนมาจัดงานวันเกิดที่นี่อีก"
การใช้วัตถุดิบพื้นเมืองเป็นสาเหตุที่ทําให้อาหารอินโดนีเซียอร่อยหรือไม่ ร้านอาหารอินโดนีเซียกับพม่านําวัตถุดิบมาจากที่ไหน พ่อครัว Hendri Sofiar เล่าว่า"นอกจากเคมิริ (Kemiri)เดา คูนยิท(daun kunyit)และเดา ซาลัม(daun salam)แล้ว เครื่องปรุงอินโดนีเซียอย่างอื่นซื้อได้ในกรุงปักกิ่ง สําหรับเครื่องปรุงที่ไม่สามารถซื้อในกรุงปักกิ่ง เจ้าของร้านมักจะนําเข้าจากฮ่องกง หรือเพื่อนที่อยู่อินโดนีเซียซื้อที่อินโดนีเซียและส่งทางไบรษณีย์"
ร้านอาหารแห่งหนึ่งหากมีพ่อครัวเพียงคนเดียวคงไม่สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน นายจี รี มู ทูชาวมองโกเลียในของจีนก็เป็นพ่อครัวของร้านอาหารอินโดนีเซียกับพม่า เขาเรียนจากพ่อครัวอินโดนีเซียสามคน อาหารอินโดนีเซียที่เขาถนัดที่สุดคือข้าวผัดอินโดนีเซีย(nasi goreng) เมื่อกล่าวถึงอนาคตของตัวเอง เขากล่าวว่า"ปัจจุบันฝีมือของผมใช้ได้ แต่หวังว่าจะทําให้ดีกว่านี้อีก ผมวางแผนว่าในอนาคตจะร่วมกับเพื่อนเปิดร้านอาหารอินโดนีเซียในกรุงปักกิ่ง"