เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 17 ที่ประเทศสิงคโปร์สิ้นสุดลงและออกแถลงการณ์สิงคโปร์ด้วย ตามแถลงการณ์ เป้าหมายร่วมของเอเปคไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ ด้วยการค้าและการลงทุนที่เสรีและเปิดเผย สนับสนุนการเติบโตและเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แถลงการณ์เรียกร้องให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่
เมื่อเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิกกลุ่มเอเปคจัดการประชุมลับขั้นตอนที่ 2 ในประเด็น "การเติบโตอย่างต่อเนื่อง" หลังจากนั้น ได้ออกแถลงการณ์สิงคโปร์ ซึ่งเกี่ยวข้องถึงการผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คัดค้านลัทธิกีดกันทางการค้า สนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี เร่งรัดการสร้างเศรษฐกิจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน กระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ ปราบปรามการทุจริต ยกระดับการบริหารให้สูงขึ้นและเพิ่มความโปร่งใส ตลอดจนส่งเสริมบทบาทของเอเปค เป็นต้น
เมื่อเที่ยงวันที่ 15 พฤศจิกายน นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมกล่าวในประกาศแถลงการณ์ว่า ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนำหน้าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก จะไม่เดินตามหนทางเก่าอย่างที่เคยปฏิบัติ เอเปคต้องการยุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ นั่นก็คือ สมดุล ยอมรับและยั่งยืน เขากล่าวว่า
"เศรษฐกิจโลกที่นำโดยเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีวี่แววฟื้นตัว แต่รูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ล้าสมัยแล้ว เอเปคต้องแสวงหายุทธศาสตร์การเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ที่สอดคล้องกับทั่วโลกในศตวรรษที่ 21 คือ สมดุล ยอมรับและยั่งยืน"
นายลี เซียน ลุงยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกต่างๆควบคุมการปล่อยคาร์บอนขณะพัฒนาเศรษฐกิจ เขากล่าวว่า เขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคต่างๆควรพัฒนาด้วยรูปแบบที่ใช้พลังงานน้อย มีประสิทธิภาพสูงและเกิดมลพิษน้อย
การผลักดันให้สร้างเป็นหนึ่งเดียวันทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ ผู้นำประเทศต่างๆเห็นพ้องต้องกันว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคต้องการรูปแบบที่เข้มแข็งผลักดันเศรษฐกิจเป็นหนึ่งเดียวกัน รูปแบบเช่นนี้ ควรสอดคล้องกับความต้องการด้านการค้าภายใน สอดคล้องกับแนวโน้มการค้าและการลงทุนข้ามชาติในภูมิภาค เขตเศรษฐกิจต่างๆในภูมิภาคควรใช้มาตรการเอนกประสงค์ นายลี เซียน ลุงกล่าวว่า
"เราจะใช้มาตรการเอนกประสงค์เร่งรัดการค้าและการลงทุนระหว่างชายแดนให้เสรีมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงบรรยากาศการค้าภายในกลุ่มเศรษฐกิจ ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศ"
เกี่ยวกับระบบการค้าพหุภาคี แถลงการณ์กล่าวว่า ผู้นำสมาชิกเอเปคย้ำว่า จะผลักดันการเจรจารอบโดฮาให้สิ้นสุดลงในปี 2010 และให้มีผลคืบหน้า นายลี เซียน ลุงประกาศแถลงการณ์ในฐานะตัวแทนผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมว่า การค้าอย่างเสรีและเปิดเผยเป็นข้อสำคัญในการรักษาความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เขากล่าวว่า
"การค้าอย่างเสรีและการตลาดที่เปิดเผยเป็นหลักประกันความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก การบรรลุเป้าหมายโบโกร์ และความมั่นใจในการบรรลุการค้าและการลงทุนอย่างเสรีของเอเปคไม่เปลี่ยนแปลง"
แถลงการณ์เน้นในท้ายสุดว่า สมาชิกเอเปคควรสร้างความสัมพันธ์ฉันหุ้นส่วนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน การแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการประจำสำนักงานเลขานุการเป็นก้าวสำคัญที่สุด ทั้งนี้จะเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายเลขาฯ เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของเขตเศรษฐกิจต่างๆของกลุ่มเอเปคและผลประโยชน์สำคัญของฝ่ายต่างๆที่นับวันมีมากขึ้น
ผิง