เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน โอกาสใหม่ทางธุรกิจสำหรับทุกประเทศ
  2009-12-14 16:53:03  cri
ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนมีกำหนดจะสร้างแล้วเสร็จบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมที่จะถึงนี้ โดยจะเป็นตลาดใหญ่ที่มีผู้บริโภคจำนวน 1,900 ล้านคนจาก 11 ประเทศ เขตการค้าเสรีนี้จะส่งผลให้การติดต่อทางการค้าระหว่างประเทศต่างๆ ภายในเขตมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ทางธุรกิจสำหรับทุกประเทศด้วย

ย้อนไปเมื่อปี 2002 จีนกับอาเซียนเริ่มต้นการเจรจาว่าด้วยเขตการค้าเสรี จากนั้นในปี 2004 มีการลงนามข้อตกลงว่าด้วยการค้าสินค้า ปี 2007 ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการค้าบริการ และในปี 2009 ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการลงทุน ตามลำดับ ซึ่งเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมายสำหรับการสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน และเป็นหลักประกันให้สร้างขึ้นทันในปี 2010 ตามกำหนด

ศ.สี่ว์ หนิงหนิง เลขาธิการคณะมนตรีธุรกิจจีน-อาเซียนฝ่ายจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า การสร้างตลาดใหญ่เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน จะนำมาซึ่งการพัฒนาที่มากขึ้นกว่าเดิมสำหรับภาคธุรกิจทั้งสองฝ่าย

"เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนเป็นตลาดใหญ่และเป็นเอกภาพที่ประกอบไปด้วยจีนกับประเทศอาเซียนรวม 11 ประเทศ พระเอกของตลาดคือ ภาคธุรกิจ ฉะนั้น ข้อดีข้อเสียของการสร้างเขตการค้าเสรีในที่สุดนั้น มาตรฐานอันดับแรกก็คือ ภาคธุรกิจอันกว้างใหญ่ไพศาลของทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์หรือไม่ จะมีโอกาสต่อยอดธุรกิจหรือไม่ หากไม่มี ก็จะจัดเป็นเขตการค้าเสรีที่สำเร็จไม่ได้"

เมื่อเขตการค้าเสรีสร้างขึ้นแล้ว จีนกับอาเซียนจะลดภาษีศุลกากรผลิตภัณฑ์ประมาณ 7,000 ชนิดให้เหลือ 0% ทั้งผัก ผลไม้ เครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเสื้อผ้า ฯลฯ ผู้ได้ประโยชน์โดยตรงที่สุดจากการยกเว้นภาษีศุลกากรก็คือ ภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่าย

นายโฮเซ่ลิโท เอ จิเมโน กงสุลใหญ่ฟิลิปปินส์ประจำเมืองกวางโจวของจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอว่า การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนในทุกด้านจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่แก่ทั้งสองประเทศ และจะผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศ

"แม้ว่าปีที่แล้ว ยอดการค้าจีน-ฟิลิปปินส์เติบโตติดลบก็ตาม แต่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ยอดการค้าจีน-ฟิลิปปินส์ในปีนี้จะก้าวกระโดดอีกครั้ง ส่วนเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนที่จะสร้างแล้วเสร็จจะมีบทบาทส่งเสริมการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศ และฟิลิปปินส์จะได้โอกาสจากจีนมากกว่าเดิม เช่น ผลิตภัณฑ์การเกษตรและผลไม้ของฟิลิปปินส์จะเข้าสู่ตลาดจีนสะดวกยิ่งขึ้น และจะสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งปวงได้ดียิ่งขึ้น"

ศ.สี่ว์ หนิงหนิง เลขาธิการคณะมนตรีธุรกิจจีน-อาเซียนฝ่ายจีนยังระบุว่า หลังเปิดเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนแล้ว จะเกิดโซ่ธุรกิจใหม่ ซึ่งต้องการให้หอการค้า สมาพันธ์การค้าของสองฝ่ายร่วมหารือกันว่า จะวางแผน จะจัดสรร จะใช้ความเหนือกว่ากันอย่างไร เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของภูมิภาคมีศักยภาพการแข่งขันและครองสัดส่วนในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น เขากล่าวว่า

"เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนไม่ได้เปิดตลาดเพื่อการเปิดตลาด หากเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ร่วมกันบุกตลาดโลกได้มากขึ้น ทำให้ภูมิภาคเราสามารถต้านความเสี่ยงต่างๆ ทั้งภัยจากวิกฤตการเงินโลก"

ศ.สี่ว์ หนิงหนิงกล่าวเน้นในขณะเดียวกันว่า พร้อมๆ กับการเปิดเสรีตลาดการค้าบริการและตลาดการลงทุน สองฝ่ายจะเปิดตลาดการคมนาคม การสื่อสาร การเงิน และการบริการทางธุรกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะอำนวยความสะดวกแก่ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายได้มากยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040