สถานีวิทยุซีอาร์ไอรายงานว่า "รายงานสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกปี 2009" ของสหรัฐฯ กล่าวหาจีนอีกว่า รัฐบาลจีนกดขี่ข่มเหงประชาชนชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองทิเบต และเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียงทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนที่กำลังเข้าร่วมการประชุมสภาครั้งที่ 3 ชุดที่ 11 ที่กรุงปักกิ่งต่างกล่าวว่า รายงานของสหรัฐฯไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง สิ่งที่เรียกว่า "ข้อเท็จจริง" ในรายงานของสหรัฐฯเป็นสิ่งเสกสรรปั้นแต่งขึ้นด้วยเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัด
นายไป๋หม่าชื่อหลิน สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ประธานเขตปกครองตนเองทิเบตกล่าวว่า ประชาชนชาวทิเบตมีอิสระเสรีในการนับถือศาสนา แต่ละปี ประชาชนจำนวนนับหมื่นนับแสนคนเดินางไปเมืองลาซา เพื่อประกอบศาสนกิจและกราบสักการบูชาพระพุทธเจ้า เขายังกล่าวว่า พุทธศาสนาในทิเบตจะได้รับการสืบทอดกันตลอดไป
นายฮาถีผู่ สมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน อุปนายกสมาคมศาสนาอิสลามของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียงกล่าวว่า สิ่งที่สหรัฐฯเปิดเผยว่า ผู้นำทางศาสนาในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเกียงถูกควบคุมอย่างเข้มงวดนั้นเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เขากล่าวว่า ข้าพเจ้าเองเป็นบุคคลในวงการศาสนา และได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน มีส่วนร่วมในการบริหารกิจการบ้านเมือง นี่จึงเป็นข้อเท็จจริง (cai)