วันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ฟิลิปปินส์จัดการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจัดขึ้นทุก 6 ปีอย่างเป็นทางการ โดยมีการลงคะแนนเสียงตั้งแต่เวลา 6.58 น.-18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการเลือกตั้งฟิลิปปินส์คาดว่า จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศกว่า 50 ล้านคน จะมีผู้มาใช้สิทธิ์ 85% การเลือกตั้งครั้งนี้จะเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี สมาชิกวุฒิสภา 12 คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรประมาณ 300 คน และเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่น 17,000 คน
การเลือกตั้งทั่วไปในฟิลิปปินส์เป็นการเลือกตั้งโดยตรง ผู้ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ปัจจุบัน ผลการสำรวจประชามติระบุว่า ผู้สมัครรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ได้รับเสียงสนับสนุน 3 อันดับแรกคือ นายเบนิกโน อาคิโน สมาชิกพรรคเสรีนิยม นายมานูเอล วิลลาร์ สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน และนายโจเซฟ เอสตราด้า อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
พาลซ์ เอเซีย องค์กรสำรวจประชามติของฟิลิปปินส์ประกาศผลการสำรวจเมื่อเร็วๆนี้ว่า นายเบนิกโน อาคิโน ได้รับเสียงสนับสนุน 39% นายมานูเอล วิลลาร์ และนายโจเซฟ เอสตราด้าต่างได้เสียงสนับสนุน 20%
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ผู้สมัครรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 คนนี้ต่างเน้นการปราบปรามคอรัปชั่นและขจัดความยากจนในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสำคัญที่สุดในสังคมฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน
เนื่องจากฟิลิปปินส์เกิดเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรงเกี่ยวกับการเลือกตั้งบ่อยครั้งตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้สามารถจัดขึ้นอย่างราบรื่นได้หรือไม่นั้นจึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ข้อมูลจากฝ่ายตำรวจระบุว่า ในช่วงจัดการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อปี 2007 เกิดเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรง 229 ครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 121 คน บาดเจ็บ 176 คน ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ก็ยังมีเหตุการณ์ใช้กำลังรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อยับยั้งเหตุรุนแรงในช่วงจัดการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคมปีนี้เป็นต้นมา ตำรวจฟิลิปปินส์มีคำสั่งห้ามทั่วประเทศใช้ปืนเป็นเวลา 6 เดือน และจัดตั้งจุดตรวจประมาณ 3,500 แห่ง วันที่ 15 เมษายนนี้ ทหารฟิลิปปินส์ประกาศภาวะฉุกเฉินสีน้ำเงิน และเพิ่มจุดตรวจให้มากขึ้นโดยร่วมมือกับตำรวจ และลาดตระเวนโดยรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา วันที่ 30 เมษายนนี้ ทหารประกาศภาวะฉุกเฉินสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการรักษาความสงบ โดยยกเลิกวันหยุดทั้งหมด
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีการก่อเหตุรุนแรงโดยเจาะจงต่อการเลือกตั้งเรื่อยๆ สถิติจากตำรวจฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 26 เมษายนนี้ระบุว่า ในช่วงวันที่ 10 มกราคมถึงวันที่ 25 เมษายนนี้ เหตุรุนแรงเกี่ยวกับการเลือกตั้งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน รวมถึงสมาชิกรัฐสภา เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 37 คน
แต่รองโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเชื่อว่า ถ้าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ประสบความล้มเหลว คณะกรรมการเลือกตั้ง ศาล และรัฐสภาก็ยังมีมาตรการอื่น หากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายก็อาจต้องให้ทหารเข้ามาจัดการ แต่อย่างไรก็ตาม นางกลอเรีย อาร์โรโย จะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
Min/Sun